'หุ้นไทย’เดือนมิ.ย.ไซด์เวย์ ลุ้น‘การเมืองชัดเจน-เฟดคงดอกเบี้ย’ ดันดัชนี
โบรกมอง"หุ้นไทย" เดือนมิ.ย.ไซด์เวย์ บล.หยวนต้า เผย หาก"กกต."รับรองผลเลือกตั้งมีลุ้นดัชนีปรับตัวขึ้น สะสมหุ้นปรับฐานลงลึก-อัพไซด์ บล.เอเซียพลัส ชี้ฟันด์โฟลว์ไหลออกต่อ หวังการเมืองในประเทศชัดเจน หนุนบรรยากาศการลงทุน บล.กสิกรไทย”ชี้หุ้นแบงก์รับอานิสงส์กนง.ขึ้นดบ.
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงปลายเดือนพ.ค.และเดือนมิ.ย. อยู่ในช่วงรอความชัดเจนปัจจัยการเมืองในประเทศ และต่างประเทศ อาทิ การรับรองผลการเลือกตั้ง การจัดตั้งรัฐบาล การดำเนินนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิหุุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง กดดันดัชนีหุ้นไทยไซด์เวย์
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยยังรอความชัดเจนในประเด็นทางการเมือง เราคาดว่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้นในเดือน มิ.ย. จากการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ซึ่งจะช่วยหนุนดัชนีหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ (Underperform) ค่อยๆปรับตัวดีขึ้น
โดยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมาแล้ว 8% ถือว่า Underperform มากเมื่อเทียบกับ MSCI Asia ex. Japan ที่เคลื่อนไหวทรงตัว (YTD) ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยภายนอกประเทศที่ต้องติดตามคือ การประชุมเฟด 14 มิ.ย. ซึ่งขณะนี้ ตลาดคาดขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25%. เป็น 5.50% เชื่อว่าตลาดจะไม่ตกใจมากนัก เพราะคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยที่มีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อตลาดหุประเทศเกิดใหม่ ( Emerging Market) ในระยะถัดไป
ดังนั้นจึงแนะนำให้ลงทุนในหุ้นที่ปรับฐานลงมาลึก และราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้น ( Upside ) เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมที่บล.หยวนต้าฯให้ไว้ และได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองจำกัด เช่น ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) , บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) , บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน(AMATA) , บมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) , บมจ.เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ (SJWD) , บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX), และบมจ.ทีทีซีแอล (TTCL) ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีเดือน มิ.ย. ประเมินแนวรับ 1,500 จุด และแนวต้าน 1,575 จุด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีรธรรมผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดกลับมาอีกครั้ง หลังตัวเลขทางเศรษฐกิจอย่างเงินเฟ้อเดือนเม.ย.ที่ออกมาสูงกว่าคาดขณะที่สัปดาห์นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 2% ซึ่งตามกลไกเป็นตัวจำกัดอัพไซด์ของตลาดหุ้นไทยให้ซื้อขายที่ระดับพี/อี ต่ำลง กดดันกรอบการขยับขึ้นของตลาดหุ้นไทยในช่วงสั้น
ขณะที่ประเด็นการเมืองในประเทศ จุดสำคัญอยู่ที่วันนี้ ( 30 พ.ค.)ที่จะมีการหารือของ8 พรรคที่ร่วมลงนามใน MOUในการจัดตั้งรัฐบาล อาจทำให้เห็นทิศทางว่าที่รัฐมนตรีต่างๆ และว่าที่ประธานสภาได้ชัดขึ้น คาดว่าจะช่วยหนุนให้เห็นจุดร่วม และคลายความสงสัยในประเด็นต่างๆ ได้
“ประเด็นการเมืองในประเทศ หากได้ข้อสรุปที่ยอมรับกันของทุกฝ่าย ก็น่าจะทำให้ภาพทางการเมืองในบ้านเราดีขึ้น อย่างไรก็ตามสถานการณ์ตลาดหุ้น ก็ยังวางใจไม่ได้เสียทีเดียว เนื่องจากยังเห็น ฟันด์โฟลว์ ไหลออกรุนแรง”
ทั้งนี้คาดว่าดัชนีหุ้นไทยเดือนมิ.ย.แกว่งตัว โดยมองแนวรับ1,520 จุด และแนวต้าน1,530-1,545 จุดโดยกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นปันผลสูงได้แก่บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป(TISCO) ,บมจ.แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป(LHFG),บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป(MAJOR) ,บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป(TU) , บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์(KCE) หุ้นราคาปรับลงแรงเกินปัจจัยพื้นฐาน ได้แก่ บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง(SCGP) และ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF )
นายพิชัย ยอดพฤติการ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ในเดือนมิ.ย.ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,490 จุด และแนวต้าน 1,555 จุด โดยยังเผชิญแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ความกังวลต่อนโยบายเศรษฐกิจที่จะมีผลต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงการเก็บภาษีการซื้อขายหุ้น และเงินทุนไหลออกทั้งในส่วนตราสารทุน และตราสารหนี้ จากการแข็งค่าของดอลลาร์
ทั้งนี้ยังแนะนำเลือกหุ้นกลุ่มแบงก์ เพราะได้ประโยชน์จากกนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ย หนุน NIM ขยายตัว หุ้นส่งออกที่ได้ประโยชน์จาการอ่อนค่าของเงินบาท และหุ้น K ขาล่าง ที่ได้ประโยชน์จากนโยบายกระจายรายได้ การอัดฉีดเงินลงเข้าสู่ระบบ คาดว่าจะยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ ( outperform)ได้แก่ ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) , บมจ. เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (AAI), บมจ. จีเอฟพีที (GFPT), บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) และ บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP)