ดอลลาร์อ่อน-บอนด์ยีลด์ร่วง หนุนทองปิดบวก

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 14 ดอลลาร์ หรือ 0.71% ปิดที่ 1,977.10 ดอลลาร์/ออนซ์ 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 12.10 เซนต์ หรือ 0.52% ปิดที่ 23.239 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 6.20 ดอลลาร์ หรือ 0.60% ปิดที่ 1,021.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 28.60 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 1,397.50 ดอลลาร์/ออนซ์

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.10% แตะที่ 104.1665 และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีลดลงสู่ระดับ 3.735% เมื่อคืนนี้

ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ๆ ส่วนการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้บรรลุข้อตกลงการขยายเพดานหนี้ ซึ่งเป็นย่างก้าวสำคัญในการผลักดันร่างกฎหมายการขยายเพดานหนี้เข้าสู่สภาคองเกรส ก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายในการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ หรือ X-date ในวันที่ 5 มิ.ย.

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะโหวตร่างกฎหมายดังกล่าวในวันพุธที่ 31 พ.ค. ก่อนที่จะส่งต่อเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาสหรัฐ และหากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบ ก็จะส่งต่อให้ปธน.ไบเดนลงนามเป็นกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป โดยกระบวนการผ่านกฎหมายดังกล่าวจะต้องเสร็จสิ้นก่อนเส้นตายวันที่ 5 มิ.ย. มิฉะนั้นสหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์

นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ประเดือนเม.ย. ส่วนในวันพฤหัสบดี ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

 ในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐ จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 253,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนพ.ค.จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.5% จากระดับ 3.4% ในเดือนเม.ย.