ตั้งรัฐบาลช้ากด 'หุุ้นไทย' ไซด์เวย์ ตลท.ลุ้นครึ่งหลังต่างชาติพลิกซื้อ
โบรกเกอร์ ชี้หุ้นไทยขึ้นยาก เหตุจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า กดดันต่างชาติคงขายสุทธิ “ตลท.”หวัง ครึ่งปีหลังฟันด์โฟลว์ไหลเข้า เหตุ เศรษฐกิจไทยฟื้น - บจ.กำไรปรับตัวดี หลังปีนี้ขายสุทธิแล้ว 1.02 แสนล้าน
ความเคลื่อนไหวหุ้นไทยวานนี้ (6 มิ.ย. ) ดัชนี SET แกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยในช่วงเช้าสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ 8.29 จุด แตะ1,539.49 จุด ก่อนจะปรับตัวลดลงต่ำสุด ที่ 1,526.93 จุด หรือ ลดลง 4.27 จุด ก่อนจะมาปิดตลาดที่ 1,528.54 จุด หรือลดลง 2.66 จุด หรือ 0.17% มูลค่าซื้อขาย 47,223.17 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,086.81 ล้านบาท ส่งผลปีนี้ขายสุทธิ 102,413.28 ล้านบาท
นายพิชัย ยอดพฤติการ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยยังถูกกดดันจากภาพใหญ่ จากความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้นักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุน เนื่องจากต้องการดูทิศทางนโยบายของรัฐบาลใหม่ มองกรอบสัปดาห์นี้ยังไซด์เวย์ อยู่ที่แนวรับ 1,520 จุด และแนวต้าน1,535-1,555 จุด
ในส่วนน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นส่งผลดีต่อหุ้น PTTEP และเงินเฟ้อที่ลดลงเหลือเพียง 0.53% จะส่งผลให้ กนง. มีโอกาสคงอัตราดอกเบี้ย แต่เป็นปัจจัยระยะกลาง เนื่องจากการประชุมครั้งต่อไปเป็นวันที่ 2 ส.ค. 2566 ส่วนภาพระยะสั้นกลุ่มหุ้นไฟแนนซ์ถูกกดดันจากข่าว ธปท. เล็งคุมธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ จักรยานยนต์ คาดว่าจะเริ่ม 1 พ.ย. นี้
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยยังถูกกดดันจากปัจจัยการเมืองจึงไม่ตอบสนองเชิงบวกต่อเงินเฟ้อที่ปรับตัวลงแรงเท่าที่ควร ถ้าจัดตั้งได้เร็วจะช่วยลดความเสี่ยงด้านสุญญากาศทางการเมืองได้ คาดระยะสั้นดัชนีหุ้นไทยแกว่งออกด้านข้างในกรอบ 1,520-1,535 จุด
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ในปี 2566 ยังผันผวน เนื่องจากขณะนี้ปัจจัยทั้งใน และต่างประเทศยังไม่มีความชัดเจน ขณะที่ภาคการส่งออกของไทยยังน่ากังวลเล็กน้อย เพราะเศรษฐกิจโลกไม่ได้โตอย่างที่คาดไว้ แต่ภาคการท่องเที่ยว หรือการบริโภคในประเทศ ถือว่าปรับดีขึ้นมาก
ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่าฟันด์โฟลว์ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แนวโน้มน่าจะไหลเข้ามาได้ดีกว่าช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ตามเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในระดับกำลังฟื้นตัวดีขึ้น เช่นเดียวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทยในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้นแล้ว
“เดือนพ.ค.ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 33,000 ล้านบาท และตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนพ.ค. ไหลออกแล้ว 97,000 กว่าล้านบาท มองว่า ตอนนี้ระดับต่างชาติขายหุ้นไทย ไม่ได้เป็นการไหลออกที่รุนแรงกว่าเดิม จากในปีที่ผ่านมา ที่ฟันด์โฟลว์ไหลเข้าหุ้นไทยรวดเร็ว และรุนแรงมาก ทั้งปีซื้อสุทธิ 1.96 แสนล้านบาท และครึ่งแรกปี 2565 ไหลเข้ากว่า 1.09 แสนล้านบาท ไม่ไหลเข้าตลาดหุ้นอื่น ทำให้ปีนี้มีการรีบาลานซ์เป็นปกติ"
สำหรับในระยะข้างหน้า ปัจจัยที่สร้างความกังวลมีเพียงอย่างเดียวคือ ผลจากต้นทุนพลังงาน อาจกระทบกับผลประกอบการ บจ.แต่ปัจจุบัน บจ.ยังบริหารจัดการค่าแรง ค่าพลังงานดีขึ้น แต่กรณีซาอุฯ จะลดกำลังการผลิตน้ำมันจะมีผลต่อราคาพลังงานอย่างไรบ้าง ยังต้องติดตาม
ส่วนกรณีเรื่องการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐ ปัจจุบันตลาดคลายกังวลมากขึ้น หลังจากสหรัฐ ผ่านกฎหมายขยายเพดานหนี้สหรัฐ และความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อของสหรัฐ เริ่มส่งสัญญาณที่ดีขึ้นต่อการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดได้ตามที่ตลาดคาด ขณะที่เงินเฟ้อของไทย ไม่ได้น่ากลัว เดือนพ.ค. บวกแค่ 0.53% ถือว่าต่ำ ทำให้ไทยไม่จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าประเทศอื่นแต่ยังต้องติดตาม
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์