หุ้นพันธมิตร | ออฟเรคคอร์ด

หุ้นพันธมิตร  | ออฟเรคคอร์ด

ลงแบบ โหด - สาดราคาหุ้น แบบไม่เกรงใจใครหุ้น OTO ด้วย Proformane ดิ่งฟลอร์ในช่วงเป็นข่าว 4 ฟลอร์ ก่อนหน้านี้อีก 1 ฟลอร์ ทำให้เห็นเลยว่าการหาโอกาสในตลาดหุ้นเกิดขึ้นได้ง่ายแต่กำไรได้ยากในหุ้นที่มีการคอนโทรล

๐๐๐ หุ้นพันธมิตร 

   ลงแบบ โหด - สาดราคาหุ้น แบบไม่เกรงใจใครหุ้น OTO ด้วย Proformane ดิ่งฟลอร์ในช่วงเป็นข่าว 4 ฟลอร์ ก่อนหน้านี้อีก 1 ฟลอร์ ทำให้เห็นเลยว่าการหาโอกาสในตลาดหุ้นเกิดขึ้นได้ง่ายแต่กำไรได้ยากในหุ้นที่มีการคอนโทรล

     นอกจาก OTO แล้วยังมีกระแสบรรดา หุ้นพันธมิตร พากันลงแบบพร้อมเพรียงโดยมิได้นัดหมาย SIMAT ที่พาราคาร่วงตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย. ที่ราคา 2.04 บาท มาอยู่ที่  1.63 บาท (15 มิ.ย.) หรือลงมาแล้ว 20% 

    จะเรียกว่า ความบังเอิญในตลาดหุ้นไม่ได้ เพราะราคาหุ้นมักจะบ่งชี้ปัจจัยทั้งพื้นฐาน - เทคนิค - ข่าวลือหรือข่าวลบ ไว้หมดแล้ว  ทำให้การลงหนักของหุ้นเล็ก และ ราคาแรงจึงจบรอบ money game  

    ความน่าสนใจ ไม่ได้ อยู่ที่งบการเงินแย่ - กระแสเงินสดมีปัญหา หรือเบี้ยวหนี้หุ้นกู้ เหมือน STARK ที่พาทั้งตลาดทุนเข้าสังฆกรรม ไปแบบไม่สนใจธรรมาภิบาล 

    กลับเป็นการใช้การ ระดมทุนผ่าน Warrant มาเป็นลูกเล่น และ “ทำกำไร” จากราคาฟลอร์ที่ลงมาเป็นรอบๆ เห็นแล้วก็...ผวาแทนรายย่อย 

๐๐๐

     สถานการณ์ ตลาดหุ้นในเอเชียตามบรรยากาศตลาดหุ้นดาวโจนส์ ที่ร่วงลง 200 จุด หลัง FED การตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก  ที่ 5.00 - 5.25%  แต่ยังได้เปิดเผยการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ซึ่งบ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่ FED ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้ง สู่ระดับ 5.50 - 5.75% ภายในสิ้นปีนี้

      ปัจจัยที่ FED ยอมคงดอกเบี้ย ผลกระทบที่เกิดกับภาคอสังหาฯ และสถาบันการเงิน รวมทั้งช่วยให้มีเวลาในการประเมินข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติม และเป็นผลดีต่อการตัดสินใจในอนาคต ซึ่ง FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ "เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%"

๐๐๐

    เศรษฐกิจใหญ่อีกซีกโลก ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนลง 0.10% สู่ระดับ 2.65% จากระดับ 2.75% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนหลังช่วงโควิด-19 ยังคงอ่อนแอ โดยนับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือนที่ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ย MLF

๐๐๐

       รายงานจาก Financial Time ประเมินว่าตลาดคาดว่ารัฐบาลจีนจะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าราว 1 ล้านล้านหยวน(140 พันล้านดอลลาร์) โดยอ้างอิงรายงานจากสำนักข่าว Bloomberg เชื่อว่ามีโอกาสที่จีนจะประกาศมาตรการกระตุุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในระยะอันใกล้  หากประกาศจริงหุ้นที่อิงและได้ผลบวก IVL, PTTGC, SCGP, DOHOME, GLOBAL

๐๐๐

     ด้านตลาดหุ้นไทยแม้จะรีบาวด์ได้แต่ยังมีปัจจัยกังวลคือ นโยบายดอกเบี้ยของ กนง. และการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะการพิจารณาคุณสมบัติของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ส่งผลทำให้ดัชนียังแกว่งตัวมาปิดตลาดที่ 1,557.71 จุด  ลดลง 3.44  จุด เปลี่ยนแปลง 0.22% มูลค่าการซื้อขาย  47,156.32   ล้านบาท 

๐๐๐

    ท่าที ธปท. ออกมาชัดเจนหลังแสดงท่าทียัง กังวลความเสี่ยงด้านสูง จากการส่งผ่านต้นทุนที่อาจจะสูงขึ้นจากนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลในอนาคต ราคาอาหารเพิ่มสูงขึ้นจากภาวะเอลนีโญ ตลาดมองว่าอาจจะเห็นการขยับขึ้นดอกเบี้ยต่อเพื่อสร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจในระยะยาวจากปัจจุบันที่ 2% 

๐๐๐

    หุ้นไฟแนนซ์ที่มีผลกระทบโดยตรงจากต้นทุนการเงินจะเพิ่มสูงขึ้นตามดอกเบี้ย และยังมีปัจจัยที่ ธปท. เข้ามาคุมเข้มทั้งระบบสำหรับการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถ และรถจักรยานยนต์ ทำให้ TIDLOR - MTC - SAWAD  นำหุ้นในกลุ่มร่วงลงทันที  โดยหุ้น TIDLOR ลงหนักสุดมาปิดที่ 24.90 บาท  ลดลง 7.78 % จากต้นทุนการเงินสูงกว่ารายอื่น 

๐๐๐

    ขณะที่หุ้นแบงก์เจอแรงขายเช่นกัน แต่รอบนี้เป็นการลงมาพักตัวเพื่อขายสลับกลุ่มลงทุน ไม่ว่าจะเป็นหุ้น KBANK- SCB - BBL - TTB ที่ราคาหุ้นแข็งกว่าตลาด และพาดัชนีขึ้นมาแกว่งตัวรอรีบาวด์ต่อ เพราะปัจจัยดอกเบี้ยขาขึ้นยังหนุนรายได้ดอกเบี้ยชัดเจน 

๐๐๐

    ฟลอร์ที่ 4 สำหรับราคาหุ้น OTO มาตามนัด ราคาหุ้นลงต่ำสุดตั้งแต่เปิดทำการซื้อขายลงมาอยู่ที่  3.68 บาท ลดลง 29.86% รวม แล้วจากราคาฟลอร์ที่ลงมา จาก 16.20 บาท มาอยู่ที่ 3.68 บาท  ลดลงถึง 77%   “วงการหุ้นแสบ - เจ้ามือโหด ยังมีให้เห็นอีกหลายรอบ” 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์