ดาวโจนส์พลิกดีดบวกในกรอบแคบ หลังร่วงเกือบ 100 จุดช่วงแรก
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันจันทร์(3ก.ค.)ปรับตัวขึ้นในกรอบแคบ หลังร่วงลงเกือบ 100 จุดในช่วงแรก ก่อนถึงวันชาติอเมริกา 4 ก.ค.
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 10.87 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 34,418.47 จุด
- ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 5.21 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 4,455.59 จุด
- ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 28.85 จุด หรือ 0.21% ปิดที่ 13,816.77 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 10.87 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 34,418.47 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 5.21 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 4,455.59 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 28.85 จุด หรือ 0.21% ปิดที่ 13,816.77 จุด
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรก โดยดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น 3.8% ขณะที่ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 15.9% ทำสถิติปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2562 ส่วนดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้น 31.7% ทำสถิติปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2526
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 46.0 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 47.0 จากระดับ 46.9 ในเดือนพ.ค.
ดัชนียังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตสหรัฐ โดยเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8
ดัชนีได้รับผลกระทบจากการลดลงของการจ้างงาน แม้ว่าคำสั่งซื้อใหม่ปรับตัวขึ้น
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 13-14 มิ.ย.ที่จะมีการเปิดเผยในวันพุธ รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์
ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 339,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5%
คาดว่าการซื้อขายจะเป็นไปอย่างเบาบางในวันนี้ ขณะที่ตลาดมีการซื้อขายเพียงครึ่งวัน ก่อนที่จะปิดทำการในวันพรุ่งนี้ เนื่องในวันชาติสหรัฐ