โบรกชี้จัดตั้งรัฐบาลเร็ว หนุนดัชนีทะลุ1,600จุด
บล.เอเชียพลัส ชี้ แม้โหวตเลือกประธานสภาฯ ตามคาด แต่ตลาดยังรอลุ้นโหวตนายกฯ-เดินหน้าตั้งรัฐบาลใหม่ตลาดตอบรับเชิงบวก หนุนฟันด์โฟลว์ไฟลเข้า- มูลค่าซื้อขายเกิน 5 หมื่นล้านต่อวัน แนะหากดัชนีหลุด 1,500 จุด มองเป็นจังหวะทยอยซื้อ
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวานนี้ (4 ก.ค.) ปิดตลาดที่ 1,515 .31 จุด ปรับตัวขึ้น 8.41 จุด หรือ 0.56% มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 4.43 หมื่นล้านบาท ขานรับเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นไปตามคาดการณ์ ทำให้ตลาดหันไปสนใจการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า ประเด็นการเมือง มีสัญญาณความชัดเจนมากขึ้นในการจัดตั้งรัฐบาล หลังจากการโหวตเลือกประธานสภาฯ เป็นไปตามที่คาดการณ์ ซึ่งวาระถัดไป คือ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี (ประเมินว่าน่าจะทิ้งช่วงประมาณ 10 วัน)
โดยตลาดรอลุ้นสุดท้ายจะโหวตเลือกนายกฯผ่านหรือไม่ผ่าน ซึ่งมองว่าเป็นเดิมพันสำคัญเช่นกัน ในขณะที่ประเทศไทยมีความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ประเด็นการเมืองใกล้ถึงปลายทางแล้ว ซึ่งหากมีการโหวตเลือกนายกฯผ่านเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล เชื่อว่ามูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยกลับมาเกิน 50,000 ล้านบาทต่อวัน และนักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทย หนุนดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้
สำหรับกำไรบจ.ภาพรวมไตรมาส 2ปี 2566 จะปรับตัวลดลง เมื่อเทียบไตรมาส 1 ปี 2566 ที่ทำได้ 2.67 แสนล้านบาท อีกทั้งฐานกำไรไตรมาส 2 ปี 2565 สูงถึง 3.55 แสนล้านบาท เป็นปัจจัยเข้ามากดดัน ที่นักลงทุนต้องเผชิญและเตรียมใจไว้
ดังนั้น จึงแนะนำลงทุนหุ้นที่กำไรเติบโตได้ดีในไตรมาส2 ปี 2566 แนะนำ IVL BEM JMT ,กลุ่มหุ้นได้รับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นจากจีน แนะนำ SCGP ERW III SCB และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินลงทุนต่างประเทศเข้ามาหนุนให้เติบโตดีกว่าตลาดได้ รวมถึงหุ้น Tactical Short Sell แนะนำBCP LPN
ส่วนแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือนก.ค. และในไตรมาส 3 นี้ มองว่า หากกนง.ขึ้นดอกเบี้ยไปที่ 2.25% จะกดดันดัชนีปรับตัวลงหลุด 1,500 จุด หรือต่ำกว่า 1,480 จุด ถือเป็นแนวรับที่เป็นจุดทยอยเข้าสะสมหุ้นเข้าพอร์ต และหากคงดอกเบี้ยที่ 2% ให้แนวต้านทางพื้นฐานแรก ที่ 1,520 จุด และหากฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามีสภาพคล่องหนุน คาดหวังดัชนีขยับขึ้นในเชิงพื้นฐาน แนวต้านถัดไป 1,610 จุดได้