ตลาดหุ้นไทยดิ่ง 17 จุด AEONTS งบต่ำคาด ฉุดกลุ่มไฟแนนซ์ - แบงก์ร่วงตาม
ดัชนีตลาดหุ้นไทย (6 ก.ค.66 เวลา 11.30 น.) ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 1,491.33 จุด หรือลดลง 17.54 จุด หรือ -1.16% เหตุ AEONTS งบต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ฉุดหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ - แบงก์ร่วงตาม
หลังจากที่ได้เริ่มมีการประกาศงบการเงินออกมาในช่วงไตรมาส 2/66 ซึ่ง AEONTS ถือว่า เป็นหลักทรัพย์ที่เริ่มประกาศออกมาและส่งผลให้ต้องผิดหวังไม่เป็นไปตามคาด จากตั้งสำรองที่สูงขึ้น ส่งผลให้กลุ่มไฟแนนซ์ และกลุ่มธนาคารปรับตัวร่วงลงมาตาม ๆ กัน จึงฉุดให้ดัชนีตลาดหุ้นไทย (6 ก.ค.66 เวลา 11.30 น.) ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 1,491.33 จุด หรือลดลง 17.54 จุด หรือ -1.16%
กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์ ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับกรุงเทพธุรกิจว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงในวันนี้เกิดจากสาเหตุที่เริ่มมีการประกาศงบออกมา ซึ่ง AEONTS ถือเป็นหุ้นตัวแรกที่ประกาศออกมาค่อนข้างไม่ดี ผิดจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ประมาณ 15% เนื่องจากมีการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มากขึ้น ทำให้กลุ่มไฟแนนซ์ หรือกลุ่มจำนำทะเบียน อย่าง TIDLOR MTC หรือ SAWAD ร่วงลงตามมา
ขณะเดียวกัน กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มแบงก์ที่นักวิเคราะห์เริ่มมีการประมาณการรายได้ไตรมาส 2/66 อาจจะทรง ๆ และยังมีประเด็นที่ต้องจับตาหุ้น KBANK และ SCB ที่ยังเป็นประเด็นคำถามว่า จะมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้่นอีกหรือไม่ ในไตรมาส 2/66 จากกรณีหุ้น STARK แม้ว่าจะมีแบงก์ขนาดใหญ่ที่ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่มีการปรับขึ้นก็ตาม แต่นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจ เนื่องจากถ้ามีการตั้งสำรองก็จะทำให้กำไรหดตัวลงไปด้วย นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องการเมืองที่ยังคงไม่ชัดเจน
วทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นไทยที่มีการปรับฐานลงมาในช่วงวานนี้ (6 ก.ค.66) ภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลกค่อยข้างไม่ดี เอเชียมีปรับร่วงลงมาหมด ทั้งญี่ปุ่นลงมา 1.7% ฮ่องกงลงมา 3% และดาวน์โจนปรับตัวลงมา 0.4% สาเหตุที่ร่วงลงมาหลังจากที่มีการประชุมเฟดจากที่รายงานเดือนมิ.ย.66 ปรากฎว่า คณะกรรมการยังคงส่งสัญญาชัดเจนที่อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 -2 ครั้ง ในปีนี้
ขณะที่ในประเทศไทยยังคงมีความกดดันในสัปดาห์หน้าที่จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่ง ณ ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า จะได้ใครขึ้นมา นอกจากนี้ผลประกอบการ AEONTS ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการไว้ที่ 784 ล้านบาท แต่พอประกาศงบออกมาอยู่ที่ประมาณ 619 ล้านบาท เท่านั้น ถือว่าต่ำกว่าคาด 15%
ทั้งนี้ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS ได้รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 บริษัทมีกำไรลดลง เนื่องจากค่าใช้จ่ายหลักของบริษัทฯ ไตรมาสที่ 1 ของปีบัญชี 2566 อยู่ที่ 4,654 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 619 ล้านบาท หรือร้อยละ 15 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและการบริหาร,ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น และต้นทุนทางการเงิน
ทั้งนี้ อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนจากการด้อยค่าต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของบริษัทฯ หรือ NPL Coverage ratio ในไตรมาสที่ 1/2566 อยู่ที่ร้อยละ 184 ของงบการเงินรวม ลดลงจากร้อยละ 190 จากสิ้นปีบัญชีก่อน และจากร้อยละ 219 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหาภาคที่มีแนวโน้มในเชิงบวกมากขึ้น
ขณะเดียกวัน บริษัทได้ตั้งสำรองค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 10,199 ล้านบาท และการด้อยค่าทางด้านเครดิตตาม TFRS9 บริษัทฯ มี NPL Stage 3 ร้อยละ 5.9 สูงขึ้นจากอัตราร้อยละ 5.7 ณ สิ้นปีบัญชีก่อน และเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.3 จากงวดเดียวกันของปีก่อน