ดาวโจนส์ร่วงเกือบ 200 จุด กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย หลังเผยตัวเลขจ้างงาน
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันศุกร์ (7ก.ค.)ร่วงลงเกือบ 200 จุด ท่ามกลางความกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวร่วงลง 187.38 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 33,734.88 จุด
- ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 0.29% ปิดที่ 4,398.95 จุด
- ดัชนีแนสแด็ก ร่วงลง 0.13% ปิดที่ 13,660.72 จุด
อย่างไรก็ดี หุ้นอาลีบาบา กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน พุ่งขึ้นสวนทางตลาด ขานรับข่าวทางการจีนมีคำสั่งปรับบริษัทแอนท์ กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ฟินเทคในเครืออาลีบาบา ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และปูทางให้บริษัทกลับมาทำการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO)
นักลงทุนเทน้ำหนักมากกว่า 90% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 94.9% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 5.1% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%
นักวิเคราะห์ระบุว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาดในวันนี้ เนื่องจากตัวเลขค่าจ้างในรายงานดังกล่าวยังคงบ่งชี้เงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้น
"ตัวเลขจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดไม่ได้รับการสนับสนุนจากรายละเอียดอื่นๆที่ปรากฎในรายงานจ้างงานดังกล่าว ทำให้เฟดยังคงมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนนี้" นายปีเตอร์ เชอร์ นักวิเคราะห์จาก Academy Securities ระบุ
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ตำแหน่ง และชะลอตัวจากระดับ 306,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
ส่วน อัตราการว่างงาน ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.6% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4.4% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.2%
เมื่อเทียบรายเดือน ค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.4% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%
ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด อยู่ที่ระดับ 62.6%