ดาวโจนส์พุ่ง 7 วันติด ล่าสุดทะยานกว่า 300 จุด ขานรับผลประกอบการแกร่ง
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร (18ก.ค.)พุ่งขึ้นกว่า 300 จุด โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่ง รวมทั้งคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาด
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 366.58 จุด หรือ 1.06% ปิดที่ 34,951.93 จุด
- ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 32.19 จุด หรือ 0.71% ปิดที่ 4,554.98 จุด
- ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 108.69 จุด หรือ 0.76% ปิดที่ 14,353.64 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 366.58 จุด หรือ 1.06% ปิดที่ 34,951.93 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 32.19 จุด หรือ 0.71% ปิดที่ 4,554.98 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 108.69 จุด หรือ 0.76% ปิดที่ 14,353.64 จุด
แบงก์ ออฟ อเมริกา และมอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 2/2566
ข้อมูลจาก FactSet ระบุว่า บรรดาบริษัทในดัชนี S&P 500 ที่เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 แล้ว พบว่า 82% ในจำนวนดังกล่าวมีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
ขณะเดียวกัน ดัชนีดาวโจนส์ได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์จะช่วยเพิ่มกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ ส่วนการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการชำระหนี้ของบริษัทต่างๆ ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถเพิ่มการลงทุน และเพิ่มการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค.
ยอดค้าปลีกได้รับผลกระทบจากยอดขายของสถานีบริการน้ำมันซึ่งดิ่งลง 1.4% ในเดือนมิ.ย.
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ค.
ด้านสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวขึ้น 1 จุด สู่ระดับ 56 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2565
ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน และอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงมุมมองทั่วไปที่เป็นบวก