รู้จัก Algo Trading เครื่องมือใหม่เพิ่มสภาพคล่องตลาด แต่สะเทือนนักเก็งกำไร
งานวิจัยจาก เกียรตินาคินภัทร ชี้ การเทรดแบบความถี่สูงสร้างประโยชน์ต่อตลาดหุ้นทั้ง เสริมสภาพคล่อง ราคาหุ้นสะท้อนมูลค่าพื้นฐาน ลดความผันผวนของตลาดในสภาวะปกติ แม้อาจกระทบเทรดเดอร์บางกลุ่ม เช่น ผู้ออกตราสาร และนักลงทุนที่เน้นเก็งกำไรด้วยการซื้อขายหุ้นระยะสั้น
Key Points
- Algo Trading เป็นกลยุทธ์การซื้อขายหลักทรัพย์ โดยนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาช่วยในการส่งคำสั่งซื้อขายโดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาของมนุษย์
- Algo Trading สร้างประโยชน์ต่อตลาดหุ้นทั้ง เสริมสภาพคล่อง ราคาหุ้นสะท้อนมูลค่าพื้นฐาน และลดความผันผวนของตลาดในสภาวะปกติ
- Algo Trading สร้างผลกระทบเทรดเดอร์บางกลุ่มโดยเฉพาะ ผู้ออกตราสารบางประเภท นักลงทุนที่เน้นเก็งกำไรด้วยการซื้อขายหุ้นระยะ และนักลงทุนที่ใช้เทคนิคการเทรดเดียวกับคอมพิวเตอร์
กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรออกบทวิจัยเรื่อง “เข้าใจ Algo Trading เมื่อเทคโนโลยีรุกคืบในโลกการลงทุน” ฉบับวันที่ 3 ส.ค.ว่า
ตลาดทุนไทยเดินผ่านการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิติของการพัฒนาเทคโนโลยี จากระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยการเคาะกระดาน มาสู่ระบบการซื้อขายด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งยังคงมีการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่องเพื่ออำนวยความสะดวก และรองรับการเติบโตของทั้งปริมาณการซื้อขายและการออกสินค้าและบริการใหม่ๆ ในธุรกิจหลักทรัพย์
เทคโนโลยีการเทรดแบบ Algo Trading คืออะไร
ทั้งนี้ การเข้ามาของ Ago Trading นับเป็นพัฒนาการของการซื้อขายหลักทรัพย์อีกรูปแบบหนึ่งมาพร้อมกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการเพิ่มขึ้นของข้อมูล ซึ่งในแง่หนึ่งก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของตลาดในภาพรวมผ่านการเพิ่มขึ้นของสภาพคล่อง และความหลากหลายของผู้เล่นในตลาด
ทั้งยังช่วยลดต้นทุนธุรกรรมของการซื้อขายหลักทรัพย์ ลดต้นทุนในการลงทุนของนักลงทุนโดยทั่วไป และลดความผันผวนในระยะสั้นได้ในภาวะปกติของตลาด ในทางตรงกันข้ามก็อาจสร้างความผันผวนเพิ่มขึ้นได้เช่นกันในช่วงเวลาวิกฤติ และหากไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ
โดยผู้เขียนระบุนิยามของการซื้อขายสินทรัพย์แบบดังกล่าวว่า เป็นกลยุทธ์การซื้อขายหลักทรัพย์ โดยนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาช่วยในการส่งคำสั่งซื้อขายโดยมีอัลกอริทึมในการสั่งคำสั่งอย่างชัดเจน โดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาของมนุษย์ เช่น ผู้จัดการกองทุน หรือดีลเลอร์
วิธีการดังกล่าวนอกจากจะช่วยให้การส่งคำสั่งทำได้อย่างรวดเร็วแล้ว การอาศัยระบบคอมพิวเตอร์มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติในปริมาณมากแล้ว ยังช่วยให้สามารถตัดสินใจส่งคำสั่งซื้อขายได้อย่างเที่ยงตรง และมีประสิทธิภาพ ไม่ถูกกระทบหรือหวั่นไหวได้ง่ายตามอารมณ์ของมนุษย์
ประเภทของการเทรดแบบ Algo Trading
ด้านการซื้อขายสินทรัพย์ด้วยวิธีการดังกล่าวประกอบด้วย 2 ประเภทคือ
1. Execution Algo คือ ชุดคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ที่ใช้ในการจัดการคำสั่งซื้อขายที่มีปริมาณมาก และมีจำนวน ที่จะซื้อหรือขายที่ชัดเจนแล้ว ยกตัวอย่างเช่น นักลงทุนต้องการซื้อหุ้นจำนวน 1 ล้านหุ้น นักลงทุนสามารถใช้ ประโยชน์จาก Execution Ago ในการซอยคำสั่งซื้อชุดนี้ ออกเป็นคำสั่งย่อยหลายๆ คำสั่ง และทยอยซื้อเพื่อให้เกิดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของราคา (Market Impact) ให้น้อยที่สุด
2. Model Ago คือ การส่งคำสั่งซื้อขายตามกลยุทธ์การลงทุนที่มีการกำหนดไว้ ซึ่งมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องมีการประมวลผลตามกลยุทธ์ก่อนสร้างคำสั่งซื้อหรือขายให้ชัดเจน โดยกลยุทธ์ของ Model Algo มีหลากหลายรูปแบบ
ยกตัวอย่าง เช่น กลยุทธ์การเทรดที่ต้องการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ หากมีการมิสแมตช์ของราคา (Price Mismatch) หรือมีโอกาสในการทำกำไรจากส่วนต่างของราคาหลักทรัพย์ทั้งสอง หรือตะกร้าของหลักทรัพย์เกิดขึ้น ผู้ออกแบบ Model AIgo ต้องหาโมเดลเพื่อสร้างกฎเกณฑ์ต่างๆ ในการส่งคำสั่งซื้อขายด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ไม่ว่าจะเป็นการหาค่าความสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างหลักทรัพย์ มูลค่าที่แท้จริงของหลักทรัพย์ (Fair Value) รวมไปถึงการวางกรอบบริหารความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น การกำหนด การขาดทุนสูงสุด (Loss Limit) และมูลค่าหลักทรัพย์ที่สามารถถือและซื้อขายได้ เป็นต้น
ประโยชน์ของของ Algo Trading ต่อตลาดทุนในภาพรวม
1. การซื้อขายสินทรัพย์แบบ Algo Trading ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาด และลดส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อ และเสนอขาย
2. การเทรดในลักษณะดังกล่าวช่วยให้ราคาสินทรัพย์สะท้อนราคาตามปัจจัยพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากการประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่าพื้นฐานของหลักทรัพย์
3. การซื้อขายสินทรัพย์ด้วยเทคโนโลยี Algo Trading ช่วยลดความผันผวนของตลาดในระยะสั้นภายใต้สภาวะตลาดปกติ
ผลกระทบของ Algo Trading ต่อตลาดทุน
ถึงแม้จะมีข้อดีจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนระบุไว้ว่า วิธีการซื้อขายหลักทรัพย์เช่นนี้ก็มีผลกระทบในด้านลบเช่นเดียวกัน โดยเทคโนโลยีดังกล่าวอาจสร้างความผันผวนให้ตลาดเพิ่มขึ้นได้เช่นกันในช่วงเวลาวิกฤติ และหากไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ
ดังนั้น Ago Trading จึงต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ และกระบวนการพิจารณาที่เข้มงวดและรัดกุม เพื่อดูแลความ เหมาะสม และควบคุมความเสี่ยงจากการใช้เทคโนโลยีในการซื้อขายหลักทรัพย์
การเข้ามาของ Algo Trading ทำให้ยุคของนักลงทุนรายย่อยหมดลงแล้วจริงหรือไม่
ในภาพรวม Ago Trading ไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ อย่างไรก็ดี อาจมีนักลงทุนบางกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ออกตราสารบางประเภท และนักลงทุนที่เน้นเก็งกำไรด้วยการซื้อขายหุ้นระยะสั้น หรือนักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์ซื้อขายเหมือนกับกลยุทธ์ของเทคโนโลยีดังกล่าวที่อาจเสียประโยชน์จากความได้เปรียบด้านความเร็วของการประมวลผล และการส่งคำสั่งด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง
โดยผู้เขียนระบุเหตุผล 4 ประการที่ Algo Trading ไม่ได้สร้างผลกระทบต่อนักลงทุนรายย่อยทั่วไปโดยตรง ประกอบด้วย
1. นักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ไม่ได้แข่งกับการเทรดด้วยเทคโนโลยีดังกล่าว เพราะนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ในตลาดที่ลงทุนโดยอ้างอิงกับปัจจัยพื้นฐาน หรือถือครองหุ้นระยะยาว ไม่ได้ มุ่งหวังทํากําไรด้วยความเร็วในกรอบเวลาสั้นๆ
ดังนั้นแทบจะไม่ได้รับผลกระทบทางลบจากเทคโนโลยีดังกล่าวเลย หรืออาจจะได้รับผลทางบวกด้วยจากสภาพคล่องในตลาดที่เพิ่มขึ้น ความผันผวนที่ลดลง และจากระดับราคาหุ้นในตลาดที่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานตามความเป็นจริง ไม่ถูกบิดเบือนจากกลุ่มผู้เล่นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
2. ในตลาดหุ้นไทยการเทรดด้วยความถี่สูงผ่านคอมพิวเตอร์มีสัดส่วนน้อย และกระจุกตัวในหุ้นขนาดใหญ่ ขณะที่มูลค่าการซื้อ ขายที่ลดลงของรายย่อยส่วนใหญ่มาจากหุ้นขนาดกลางและเล็ก
3. นักลงทุนกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ และมาตรฐานเดียวกันกับนักลงทุนกลุ่มอื่นๆ
4. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการเพิ่มขึ้นของข้อมูลสร้างโอกาสให้นักลงทุนรายย่อย ด้วยเช่นกัน
ท้ายที่สุดหากผู้อ่านต้องการอ่านข้อมูลจากงานวิจัย “เข้าใจ Algo Trading เมื่อเทคโนโลยีรุกคืบในโลกการลงทุน” ฉบับเต็มสามารถกดเข้าไปได้ที่ “ลิงก์” นี้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์