'บล.ไอร่า’รุกโกลบอลเทรด เน้นเจาะกลุ่มลูกค้า'เวลธ์'
“บล.ไอร่า” ชี้ นักลงทุนไทยหันลงทุนต่างประเทศ เหตุ ผลตอบแทนเด่น เดินหน้ารุกธุรกิจโกลบอลเทรดดิ้ง ตั้งเป้า2 ปีข้างหน้า เพิ่มสัดส่วนรายได้คอมมิชชั่นเป็น 30% -ดันมูลค่าสินทรัพย์โต50%จากปัจจุบัน 5 พันล้าน หวังตั้งรัฐบาลได้เดือนก.ย. มอง กรอบดัชนีปีนี้ 1,400-1,675จุด
นายไพโรจน์ เหลืองเถลิงพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ไอร่า หรือ AIRA ว่า ในช่วง2-3ปีที่ผ่านมากลุ่มนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มหันมาศึกษาการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศมากขึ้น เพราะการเทรดในต่างประเทศให้ผลตอบแทนสูงและคุ้มค่ากว่า เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นไทย อีกทั้งนักลงทุนโยกเงินลงทุนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไปลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศแทน
โดยมีผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ยในตลาดหุ้นที่สำคัญ YTD ( ณ 31 ก.ค.2566) เช่น NASDAQ (สหรัฐ) สูงถึง 37.1% ,NIKKEI (ญี่ปุ่น) 27.1% , S&P500(สหรัฐ) 19.5% , HANG SENG (ฮ่องกง) 1.5% และ FTSE 100 (สหราชอาณาจักร) 3.3% ขณะที่ผลตอบแทนตลาดหุ้นไทยช่วงเดียวกันติดลบ6.7%
ทั้งนี้บริษัทวางเป้าหมายภายใน 2 ปีข้างหน้า จะเพิ่มสัดส่วนนักลงทุน Global Trading เป็น 30% จากปัจจุบันที่มี 10% ของมูลค่าคอมมิชชั่นทั้งพอร์ต ซึ่งจะหนุนรายได้ค่าคอมมิชชั่นจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันรายได้ค่าคอมมิชชั่นหลักมาจากในประเทศสัดส่วนถึง90%
ส่วนมูลค่าสินทรัพย์ ธุรกิจแพลตฟอร์มซื้อขายหลักทรัพย์ในต่างประเทศ( Global Trading) ใน2 ปีข้างหน้า คาดว่าเติบโต 40-50% จากปัจจุบัน 3,000 - 4,000 ล้านบาท และมุ่งขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น 100% โดยเน้นกลุ่มลูกค้าเวลธ์และรายย่อยที่ต้องการกระจายพอร์ตการลงทุน
นายไพโรจน์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้า ในกลุ่ม Global Trading 500-600 ราย และเป็นลูกค้าที่Active มากกว่า 100 ราย
ทางด้านแนวโน้มตลาดหุ้นไทยมองกรอบดัชนีหุ้นไทยปีนี้ อยู่ที่ 1,400-1,675จุด มีพี/อี15-18เท่า และกำไรต่อหุ้น (EPS)ที่ 93 บาทต่อหุ้น โดยในช่วงนี้ยังเป็นสูญญากาศการเมืองไทย นักลงทุนยังรอความชัดเจนการจัดตั้งรัฐบาล ตลาดคาดน่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในเดือนก.ย.นี้ แต่ยังต้องติดตามว่าจะมีสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดหรือไม่ อย่างเช่น กรณีเกิดการชุมนุมประท้วง มองดัชนีแนวรับที่ 1,395 จุด แต่หวังว่าไม่เกิดขึ้น
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนหุ้น แนะนำมองข้ามความไม่ชัดเจนการเมืองไทยในช่วงนี้ไป ซึ่งหากมีการจัดตั้งรัฐบาลได้ แนะทยอยเข้าลงทุนจังหวะดัชนีย่อตัวลง ในหุ้นได้ประโยชน์จากนโยบายเศรษฐกิจที่จะตามมาได้แก่ หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และอุปโภค