BTG ฮวบไตรมาส 2/66 พลิกขาดทุน 350 ล้าน ลดลง 118% เหตุเนื้อหมูเถื่อนฉุดราคาขาย
“เบทาโกร” เผยไตรมาส 2 ปี 66 พลิกขาดทุน 350.6 ล้านบาท ลดลง 118.8% รับผลกระทบการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรผิดกฎหมาย ทำราคาขายในประเทศทรุด ขณะที่ 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 42 ล้านบาท ลดลง 98.9%
บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG รายงานผลดำเนินงานผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ไตรมาส 2 ปี 2566 พลิกขาดทุน 350.6 ล้านบาท ลดลง 118.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,868.9 ล้านบาท
โดยบริษัทมีรายได้รวม 26,661.8 ล้านบาท ลดลง 5.1% จาก 28,108.0 ล้านบาท ในไตรมาส 2/65 มาจากการลดลงของรายได้การขายสินค้าและให้บริการในกลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาสุกรในประเทศที่ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากการลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนและเนื้อสุกรผิดกฎหมาย แม้ว่าปริมาณการขายจะเพิ่มขึ้นตามแผนการขยายกำลังผลิต
EBITDA ในไตรมาส 2/66 อยู่ที่ระดบั 901.0 ล้านบาท ลดลง 74.4% จาก 3,517.4 ล้านบาท ในไตรมาส 2/65 โดยบริษัทฯ มีอัตรา EBITDA อยู่ที่ 3.4% ในไตรมาส 2/66 ลดลงจาก 12.5% ในไตรมาส 2/65
ส่วนงวด 6 เดือนแรกปี 66 มีกำไรสุทธิ 42.18 ล้านบาท ลดลง 98.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 3,838.94 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 54,621.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0% จาก 54,090.5 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการของ (1) กลุ่มธุรกิจเกษตร จากการเพิ่มขึ้นของราคาขายสินค้า ตามการเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์
ขณะที่ปริมาณขายเพิ่มขึ้นตามความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการขยายกำลังการผลิต (2) กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ จากปริมาณขายอาหารแปรรูปและเนื้อสัตว์แปรรูปที่เพิ่มขึ้น ทั้งในประเทศกัมพูชาและลาว และ (3) กลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง จากการเพิ่มขึ้นของราคาขายอาหารสัตว์เลี้ยง สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนรายได้การขายผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสูงขึ้น
โดย EBITDA อยู่ที่ระดับ 2,728.1 ล้านบาท ลดลง 60.9% จาก 6,981.2 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันปีก่อน มีอัตรา EBITDA อยู่ที่ 5.0% ลดลงจาก 12.9% ในช่วงเดียวกันปีก่อน