มาตรการกระตุ้นแผ่ว นักลงทุนขายสุทธิ หุ้น-บอนด์ จีนหนัก หลังความเชื่อมั่นหด
นักลงทุนขายสุทธิหุ้น-พันธบัตรจีน อย่างหนัก เนื่องจากขาดความเชื่อมั่นในตลาดการเงินจีน เหตุมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลแผ่ว ท่ามกลางความปั่นป่วนของเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์
สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทมส์ (Financial Times) รายงานวันนี้ (17 ส.ค.) ว่า นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นและพันธบัตรจีน หลังจากสูญเสียความเชื่อมั่นในตลาดการเงินของปักกิ่งที่รัฐบาลอ้างว่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างทันท่วงทีเพื่อพยุงเศรษฐกิจที่สั่นคลอน
โดยจากการคำนวณของไฟแนนเชียล ไทมส์ ผ่านข้อมูลของแผนการซื้อขาย Stock Connect ของฮ่องกง แสดงให้เห็นว่า ในช่วงหลังจากทางการจีนให้คำมั่นสัญญาเมื่อวันที่ 24 ก.ค.ว่าจะเพิ่มการสนับสนุนนกระตุ้นเศรษฐกิจ นักลงทุนจึงช้อนซื้อสุทธิหุ้นจีนเกือบ 5.4 หมื่นล้านหยวน (7.4 พันล้านดอลลาร์) ทว่าเมื่อเมื่อเริ่มเห็นความจริงว่ามาตรการดังกล่าวนั้นไม่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพจนสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ นักลงทุนจึงค่อยๆ เทขายออกมา
ในขณะเดียวกัน หน่วยงานกำกับดูแลการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของจีน รายงานเมื่อวานนี้ (16 ส.ค.) ว่า ในเดือน ก.ค. การถือครองพันธบัตรของนักลงทุนสถาบันต่างก็ประเทศลดลง 3.7 หมื่นล้านหยวน มาอยู่ที่ 3.24 ล้านล้านหยวน
ทั้งนี้ ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอและนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่ง กล่าวว่า
การขายซึ่งดูเหมือนว่าจะชะลอตัวหลังจากการประชุมโปลิตบูโรนั้น กลับมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้งในเดือน ส.ค. และมีแนวโน้มที่จะเร่งตัวขึ้นหลังจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในสัปดาห์นี้
ด้านบทวิเคราะห์ของไฟแนนเชียลไทมส์ ระบุว่า ยอดขายสุทธิของทั้งหุ้นและพันธบัตรของจีนขณะนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่พังทลายในคำสัญญาที่ให้ไว้เมื่อปลายเดือนที่แล้วโดยผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งให้คำมั่นว่าจะกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อ่อนแอ แก้ไขปัญหาการว่างงานของเยาวชนที่สูงอย่างทันท่วง
“มาตรการที่รัฐบาลจีนดำเนินมาจนถึงตอนนี้ดูเหมือนจะทำให้ตลาดผิดหวัง” Mohammed Apabhai หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การซื้อขายในเอเชียของ Citigroup กล่าว
พร้อมเสริมว่า “นักลงทุนหลายท่านหงุดหงิดและกังวลมากขึ้นจากการขาดการดำเนินนโยบายที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพจากรัฐบาลจีน”
ทั้งนี้ ข่าวเชิงลบเกี่ยวกับประเทศจีนทั้งหมด ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นจีน โดยดัชนี CSI 300 ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้นปรับตัวขึ้นถึง 5.7% หลังการประชุมโปลิตบูโร แต่หลังจากตลาดรับรู้ว่ามาตรการกระตุ้นนั้นค่อนข้างแผ่วจึงค่อยๆ ปรับตัวลงมา
“ตลาดหุ้นจีนปัจจุบัน ได้รับแรงหนุนและกดดันอย่างมากจาก Sentiment” Wei Li ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของ BNP Paribas Asset Management กล่าว
พร้อมเสริมว่า “และตลาดหุ้นยิ่งผันผวนเมื่อ Sentiment เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจากข่าวมากมาย”
อ้างอิง