WHA ชี้ ไตรมาส 3/66 ยอดขายที่ดิน 1.5 พันไร่ - เพิ่มงบซื้อที่แตะ 6.5 พันล้าน

ปีนี้ถือเป็นปีทองของบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA  จากธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมที่เป็นดาวเด่น ผลดีจากการย้ายฐานการผลิตและการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะจีน และไต้หวัน  ขณะที่ญี่ปุ่น สหรัฐ และยุโรป กลับมาซื้อที่ดินมากขึ้น ดันยอดขายที่ดินปีนี้ทะลุเป้าหมาย หนุนผลดำเนินงานปีนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ออลไทม์ไฮ)

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ   WHA เปิดเผยว่า ตอนนี้ประเทศไทยถือว่าเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างชาติที่ย้ายฐานการผลิตเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่ารอบนี้เป็นคลื่นการย้ายฐานการผลิตรอบใหญ่ ซึ่งไม่รู้ว่าอีกกี่ 10 ปี จะเกิดขึ้นอีกครั้ง

ทั้งนี้ยอดขายที่ดินไตรมาส 3 ปี 2566 คาดอยู่ที่ 1,500 ไร่ แบ่งเป็นประเทศไทย 900 ไร่ และเวียดนาม 600 ไร่ ซึ่งได้เซ็นสัญญากับลูกค้าไปแล้ว 300 ไร่ และคาดว่าวันที่ 26 ก.ย.จะเซ็นสัญญาได้อีก 200-300 ไร่ ทำให้ไตรมาส 3 มียอดขายที่ดินสูงสุดของปีนี้ ซึ่งยังไม่รวมกับลูกค้ารายใหญ่อีกรายที่อยู่ระหว่างการเจรจา 

โดยหากสามารถเจรจาจบในปีนี้ ก็จะทำให้ยอดขายที่ดินปีนี้เพิ่มขึ้นมาก โดยสาเหตุที่ทำให้บริษัทมียอดขายที่ดินที่สูง เพราะ การย้ายฐานการผลิต และการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าจีน ไต้หวัน ที่เติบโตสูง ขณะที่ลูกค้าญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐ กลับมาซื้อมากขึ้น

 “เฉพาะไตรมาส 3 ไตรมาสเดียวคาดว่าจะมียอดขายที่ดินแตะ 1,500 ไร่ ซึ่งเป็นไตรมาสที่พีคมาก โดยปกติยอดขายที่ดินของเราจะพีคในไตรมาส 4 ซึ่งยังไม่รวมลูกค้ารายใหญ่อีก1 ราย ซึ่งหากเข้ามาปีนี้ตัวเลขจะสูงมาก"

ดังนั้นทำให้บริษัทปรับเป้ายอดขายที่ดินปีนี้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 2,500 ไร่ จากเดิมตั้งเป้าไว้ ที่ 1,750 ไร่ โดยครึ่งปีแรกบริษัทขายที่ดินไปแล้ว 1,049 ไร่  และมียอดเซ็น LOI และ MOU รวมจำนวน 1,310 ไร่  แบ่งเป็น ประเทศไทย 994 ไร่ เวียดนาม 316 ไร่  นอกจากนี้ยังมียอดขายที่ดินรอโอน ( Backlog) 799 ไร่ 

นางสาวจรีพร กล่าวว่า จากที่บริษัทมีการขายที่ดินในปีนี้ ได้สูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ ทำให้บริษัทเตรียมที่จะซื้อที่ดินเพิ่มอีกหลายพันไร่ จึงให้ของบซื้อที่ดินเพิ่มเป็น 6,500 ล้านบาท จากเดิมที่คณะกรรมการ(บอร์ด)บริษัทอนุมัติไว้ที่ 3,000 ล้านบาท 

“จากที่เราขายที่ดินได้มากกว่าที่คาดการณ์  ซึ่งบางโครงการที่เราคาดว่าจะพัฒนาในปีหน้า ก็ต้องเริ่มพัฒนาปีนี้แล้ว  ทำให้บริษัทมีแผนที่จะซื้อที่ดินเข้ามาเพิ่มอีกหลายพันไร่ จึงขอบอร์ดเพิ่มงบซื้อที่ดินเป็น 6,500 ล้านบาท ”

สำหรับธุรกิจน้ำ คาดว่าครึ่งปีหลังจะเติบโตสูงกว่าครึ่งปีแรก เพราะ ลูกค้าปิโตรเคมีกลับมาใช้น้ำปกติหลังจากที่หยุดซ่อมบำรุงไปก่อนหน้านี้ ขณะที่ธุรกิจโรงไฟฟ้า ปีนี้ได้ตั้งเป้าจะมี PPA เพิ่ม 300 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันทำได้แล้ว 292 เมกะวัตต์  โดยทางWHAUP ยังคงหาโอกาสในการเติบโตทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศเพิ่มขึ้น (เน้นเวียดนาม) ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าขยะ  ส่วนธุรกิจดิจิทัลเติบโตที่ดี  และธุรกิจ Office Solutions ที่สุขุมวิท 25 นั้น มีลูกค้าจองพื้นที่แล้ว 1,800 ตารางเมตร

 โดยในไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัทมีแผนเตรียมขายทรัพย์สิน และ/หรือ สิทธิการเช่าทรัพย์สินให้กับกองทรัสต์ WHART ในปีนี้  โดยผู้ถือหน่วยกองทรัสต์ WHART ได้มีมติอนุมัติให้ทำการลงทุนทรัพย์สินเพิ่มเติมเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีพื้นที่เช่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 142,583 ตารางเมตร เป็นมูลค่า 3,567 ล้านบาท  ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 4 ปี 2566

ดังนั้นบริษัทคาดว่าผลดำเนินงานปีนี้จะออลไทม์ไฮต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ที่ทำออลไทม์ไฮ โดยมีรายได้ 14,982.33 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 4,045.87 ล้านบาท 

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์