เช็ก 4 หุ้นน้ำตาล อานิสงส์ราคาตลาดโลกพุ่งรอบ 12 ปี หลังอินเดียห้ามส่งออก
เช็ก 4 หุ้นน้ำตาล อานิสงส์ราคาตลาดโลกพุ่งรอบ 12 ปี หลังอินเดียห้ามส่งออก คาดเริ่มตุลาคมนี้ หุ้น KBS ราคาย้อนหลัง YTD บวกมากสุด 26.73%
ภาพรวมของอุตสาหกรรมน้ำตาล ที่ปัจจุบันราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความกังวลเรื่องเอลนีโญ รวมถึงประเทศอินเดียประกาศห้ามส่งออกน้ำตาลครั้งแรกในรอบ 7 ปี ที่คาดว่าจะเริ่มตุลาคมนี้ ยิ่งส่งผลให้ราคาน้ำตาลในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นในรอบ 12 ปี
ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลกับกรุงเทพธุรกิจว่า สภาพอากาศที่แปรปรวนจากเอลนีโญทำให้พืชผลการผลิตออกมาลดลง ส่งผลให้ซัพพลายในตลาดโลกลดลงไปด้วย โดยเฉพาะอินเดียที่มีการลดการส่งออกลง จากการคาดการณ์ว่าอ้อยจะปลูกได้น้อยลง ทำให้น้ำตาลลดน้อยลง ไม่มีความเพียงพอกับผู้บริโภคในประเทศ ดังนั้นจึงต้องมีการลดการส่งออก เพื่อต้องการเก็บไว้บริโภคในประเทศ
ทั้งนี้ถือเป็นภาพระยะสั้นๆ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในช่วงโควิด-19 ที่มีการชะลอการส่งออกข้าว พอซัพพลายเริ่มมีการออกมาได้ตามปกติก็จะทำให้ราคากลับเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ราคาหุ้นกลุ่มน้ำตาลมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากอุปสงค์ส่วนเกินที่เกิดขึ้นในช่วงสั้น ซึ่งหากดูความเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มดังกล่าวตัวนำของตลาด มีสภาพคล่องสูงจะเป็นหุ้น KSL แต่ถ้ามีราคาที่ไม่แพง มี Valuation และมีปันผลดี ๆ จะเป็นหุ้น BRR และหุ้น KBS
อาทิตย์ จันทร์สว่าง ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ด้านกลยุทธ์ บล. กรุงศรี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หากดูระบบการจำหน่ายน้ำตาลในบ้านเราจะเป็นระบบโควต้า นั่นหมายความว่า ผู้ประกอบการน้ำตาลในบ้านเราอาจจะไม่ได้ประโยชน์เต็มที่จากราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่มีการปรับตัวสูงขึ้นในรอบ 12 ปี แต่เป็นประโยชน์เชิงเซนติเมน อย่างหุ้น KBS BRR
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มน้ำตาลส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มคอมมูนิตี้ โดยเน้นการลงทุนแบบเทรดดิ้ง นักลงทุนต้องรับความเสี่ยงได้ค่อนข้างสูง ที่ต้องอยู่หน้าจอ เฝ้าหน้าจอได้บ่อย ๆ สามารถเข้ามาลงทุนได้ แต่หากเป็นนักลงทุนที่ไม่มีเวลาเฝ้าหน้าจอสักเท่าไร หุ้นกลุ่มนี้ไม่แนะนำ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผลประกอบการช่วงที่ผ่านมาบางหลักทรัพย์ยังขาดทุนอยู่
สำหรับ อินเดียเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 1 ของโลก และมีการบริโภคน้ำตาลค่อนข้างมาก สาเหตุที่ต้องห้ามการส่งออกน้ำตาล มาจากเอลนีโญที่พักหลังจะได้ยินบ่อยครั้งมาก โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียของบ้านเรามีปริมาณฝนตกค่อนข้างน้อย แต่จะไปตกเยอะที่ฝั่งลาติน แต่พอฝนมีการตกน้อยลง ส่งผลให้ซัพพลายอ้อยที่มีการส่งออกสู่ตลาดเริ่มหายไป
“ยังคงเกิดความกังวลว่า หากซัพพลายน้ำตาลในโลกเกิดการหายไป อินเดียงดส่งออกน้ำตาล เพราะถ้าอินเดียยังมีการส่งออกจะทำให้ประชากรในประเทศไม่พอกินพอใช้ อินเดียจึงมองว่า การนำมาใช้แค่ในประเทศเพื่อให้เกิดความพอใช้ก่อน และค่อยไปส่งออก จึงกลายมาเป็นนโยบายที่ห้ามส่งออก ซึ่งก็จะคล้ายกับกรณีของประเทศอินโดนีเซีย ที่เคยห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มในช่วงก่อนหน้านี้ ที่ต้องการให้คนในประเทศมีใช้เพียงพอก่อน”
ทั้งนี้ “กรุงเทพธุรกิจ” ได้สำรวจหุ้นกลุ่มน้ำตาลว่า ราคามีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
1.บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) KTIS
- ราคาย้อนหลัง YTD +3.00%
- ราคาย้อนหลัง 20 วัน +7.85%
- ราคาย้อนหลัง 5 วัน +3.52%
- อัตราเงินปันผลตอบแทน -%
- กำไรสุทธิ 9 เดือน 1,510.21 ล้านบาท
- รายได้รวม 9 เดือน 15,948.07 ล้านบาท
- มาร์เก็ตแคป 15,903.20 ล้านบาท
- ประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท
2.บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) KSL
- ราคาย้อนหลัง YTD -8.11%
- ราคาย้อนหลัง 20 วัน +13.33%
- ราคาย้อนหลัง 5 วัน +6.25%
- อัตราเงินปันผลตอบแทน 3.82%
- กำไรสุทธิ 9 เดือน ที่ 790.99 ล้านบาท
- รายได้รวม 9 เดือน 14,584.36 ล้านบาท
- มาร์เก็ตแคป 14,994.79 ล้านบาท
- มีธุรกิจโรงงานน้ำตาลที่สะหวันนะเขต ในประเทศลาว
- ชลัช ชินธรรมมิตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
3.บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) KBS
- ราคาย้อนหลัง YTD +26.73%
- ราคาย้อนหลัง 20 วัน +14.29%
- ราคาย้อนหลัง 5 วัน +4.07%
- อัตราเงินปันผลตอบแทน 7.81%
- กำไรสุทธิ 6 เดือน 921.74 ล้านบาท
- รายได้รวม 6 เดือน 7,722.03 ล้านบาท
- มาร์เก็ตแคป 7,722.03 ล้านบาท
- ถกล ถวิลเติมทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร, กรรมการผู้จัดการ (รักษาการ)
4.บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) BRR
- ราคาย้อนหลัง YTD -26.59%
- ราคาย้อนหลัง 20 วัน +18.69%
- ราคาย้อนหลัง 5 วัน +9.48%
- อัตราเงินปันผลตอบแทน 3.15%
- กำไรสุทธิ 6 เดือน ที่ 370.54 ล้านบาท
- รายได้รวม 4,047.63 ล้านบาท
- มาร์เก็ตแคป 5,156.84 ล้านบาท
- อนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานกรรมการบริหาร, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร