PTT ตั้ง 'พงศธร ทวีสิน' เป็นบอร์ดอิสระ ไร้วี่แววการลาออก 'ทศพร ศิริสัมพันธ์'
บอร์ด ปตท. แจ้งเพิ่มตำแหน่งกรรมการอิสระโดยตั้ง “พงศธร ทวีสิน” นั่งตำแหน่งดังกล่าว พร้อมตั้ง “ผยง ศรีวณิช” เป็นประธานกรรมการสรรหา แต่ไร้วีแววมติการลาออกของ “ทศพร ศิริสัมพันธ์”
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2566 ได้รับทราบการเพิ่มจำนวนกรรมการที่เป็นกรรมการอิสระ โดยเปลี่ยนแปลงการดำรงตำแหน่งกรรมการของ นายพงศธร ทวีสิน จาก “กรรมการ” ให้ดำรงตำแหน่ง “กรรมการอิสระ” โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.2566 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ นายพงศธร เป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติครบถ้วนในการดำรงตำแหน่ง “กรรมการอิสระ” ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ.39/ 2559 เรื่องการขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่และนิยามกรรมการอิสระในการกำกับดูแลกิจการที่ดีของ ปตท.
นอกจากนี้ ที่ประชุมบอร์ด ปตท. ยังมีมติแต่งตั้งกรรมการเฉพาะเรื่อง โดยแต่งตั้ง นายผยง ศรีวณิช เป็นประธานกรรมการสรรหา จากเดิมที่เป็น กรรมการอิสระ และได้แต่งตั้ง นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร เป็นกรรมการสรรหาจากเดิมเป็นกรรมการอิสระ
อย่างไรก็ตาม การประชุมบอร์ด ปตท. ในวันที่ 19 ต.ค.นี้ ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับการยื่นลาออกของ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ซึ่งดำรงตำแหน่ง ประธานบอร์ด ปตท. โดยก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า นายทศพร จะยื่นลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีแรงกดดันอย่างหนักจากภาคการเมืองที่ต้องการปลดเขาออกจากตำแหน่ง ประธานบอร์ด ปตท. จนส่งผลให้ นายทศพร ต้องทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ให้ช่วยตีความข้อบังคับของ ปตท. ในเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด
กระทั่งต่อมา ทางสำนักงาน ก.ล.ต. ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยัง ปตท. โดยระบุว่า กรณีขอให้สำนักงาน ก.ล.ต. นำเรื่องการตีความข้อบังคับของ ปตท. เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อระงับยับยั้งการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นผลจากการตีความข้อบังคับที่ผิดไปจากลายลักษณ์อักษรของบริษัทท่านความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น
สำนักงาน ก.ล.ต. ขอเรียนว่าคณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัทท่านต้องปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 89/7 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยต้องดำเนินกิจการของบริษัทด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งปฏิบัติเป็นไปตามกฎหมาย วัถุประสงค์ และข้อบังคับบริษัท เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้นโดยรวม และหากมีเหตุที่จะต้องตีความข้อบังคับให้พิจารณาตามความประสงค์ในทางสุจริตเป็นสำคัญ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของข้อบังคับดังกล่าวด้วย