หุ้นไทยวันนี้ (26 ต.ค.) ปิดตลาดเย็นลบ 30.48 จุด ผวาสงครามขยาย บอนด์ยีลด์พุ่ง

หุ้นไทยวันนี้ (26 ต.ค.) ปิดตลาดเย็นลบ 30.48 จุด ผวาสงครามขยาย บอนด์ยีลด์พุ่ง

“ตลาดหุ้นไทย” วันนี้ (26 ต.ค. 66) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,371.22 จุด ลบ 30.48 จุด หรือ 2.17% โบรกเกอร์ชี้ นักลงทุนกังวลสงครามขยายวง และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐร้อนแรงดันบอนด์ยีลด์พุ่ง กดดันสินทรัพย์เสี่ยง

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทยวันนี้” วันนี้ (26 ต.ค.66) ปิดตลาดอยู่ที่ 1,371.22 จุด ลบ 30.48 จุด หรือ 2.17% โดย ดัชนีตลาดหุ้นไทย ผันผวนในทิศทางปรับตัวลดลงตลอดทั้งวัน ซึ่งทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,370.30 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,396.17 จุด มูลค่าซื้อขาย 45,690.17 ล้านบาท

ภาวะหุ้นไทยวันนี้ (26 ต.ค. 2566)

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

  1. SCB  มูลค่า 2,944.16 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 97.25 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 1.02%
  2. KBANK มูลค่า 2,474.72 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 129.50 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ 2.63%
  3. DELTA  มูลค่า 2,463.25  ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 72.25 บาท ลดลง 8.50 บาท หรือ 10.53%
  4. PTT มูลค่า 2,007.49 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 32.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
  5. BBL  มูลค่า 1,663.39 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 158.00 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ 2.17%

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผอ.อาวุโส และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วันนี้ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงอย่างร้อนแรงลึกสุด 30 จุดในช่วงก่อนการปิดตลาดเนื่องจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของสหรัฐจะขยายตัวแรงกว่าคาดที่ 4.5% หรือ 5.4% ตามแต่ละสำนัก

ซึ่งจะเข้าไปกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ต้องดำเนินนโยบายทางการเงินแบบตึงตัวต่อไป จึงอาจทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง

ประกอบกับสงครามอิสราเอล-ฮามาสกดดันให้นักลงทุนให้ความสำคัญกับการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงน้อยลงและให้ความสำคัญกับสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างพันธบัตรรัฐบาล และทองคำมากขึ้น

ทั้งหมดจะส่งผลกระทบต่อเนื่องให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงรวมทั้งหุ้นไทยด้วย ดังนั้นจึงประเมินว่าวันพรุ่งนี้ (27 ต.ค.66) คาดว่าดัชนีจะเเกว่งในกรอบ 1,350-1,388 จุด

“ต้องทำใจว่าภาพตลาดหุ้นไทยจากวันนี้ไปจนถึงกลางปีหน้าโดยรวมจะยังไม่ไปไหน ถ้าจะขยายก็จะอยู่เพียง 100-150 จุด แต่การฟื้นตัวอาจยังไม่กระจายไปทุกกลุ่ม เช่น กลุ่มที่ซื้อขายแพง และปันผลน้อยก็อาจจะไม่น่าสนใจ”

สำหรับคำแนะนำในการลงทุน นายกิจพณ แนะนำหุ้นกลุ่มที่ P/E อยู่ที่ประมาณ 10 เท่า และปันผลอยู่ที่ประมาณ 4% รวมทั้ง MAJOR ADVANC SCB และ TU

ขณะที่หุ้น บริษัท มาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ MCA ร่วงหนัก 38.18% จากราคาประกาศขายหุ้นให้ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ไปอยู่ที่เพียง 2.04 บาทเท่านั้น 
 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์