‘เสี่ยยักษ์-เสี่ยป๋อง’ ประสานเสียงยังกอด ‘หุ้น NAM’ แน่น มั่นใจพื้นฐานแกร่ง

              หุ้นน้องใหม่ไอพีโอที่เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทยวันแรก (เทรด) วันนี้ (31 ต.ค.2566) อย่าง บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NAM ผู้นำเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เกี่ยวกับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ และ ให้บริการแบบครบวงจร โดยเปิดตลาดวันแรกที่ 7.40 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ -3.9% จากราคาจอง (IPO) ที่ 7.70 บาท

              โดยพบว่าในรายชื่อ “ผู้ถือหุ้นใหญ่” 10 อันดับแรก ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) นอกจากบริษัทในเครือของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ขนาดใหญ่แล้วถือหุ้นแล้ว ยังปรากฏว่ารายชื่อนักลงทุนรายใหญ่ นายวิชัย วชิรพงศ์ หรือ “เสี่ยยักษ์”  ถือหุ้นจำนวน 7 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 1%

              โดย “เสี่ยยักษ์-วิชัย วชิรพงศ์” นักลงทุนรายใหญ่ เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า บรรยากาศลงทุนไม่เอื้อ ทำให้หุ้น NAM เปิดวันแรกต่ำจอง แต่ตนเองยังถือหุ้นครบไม่ได้ขายหุ้นออกมา เนื่องจากมองพื้นฐานธุรกิจของ NAM แข็งแกร่ง และยังเติบโตได้อีกในอนาคต

             ด้าน “เสี่ยป๋อง-วัชระ แก้วสว่าง” นักลงทุนรายใหญ่สไตล์เทคนิค เจ้าของพอร์ต “พันล้าน” เปิดเผยว่า ตนเองได้รับจัดสรรหุ้น NAM มาเล็กน้อย แม้วันนี้หุ้น NAM จะเปิดมาต่ำกว่าราคาจอง 7.70 บาท แต่ตนเองยังไม่ขายหุ้น เพราะมองพื้นฐานธุรกิจของ NAM แข็งแกร่ง แต่ที่ราคาปรับตัวลง ส่วนหนึ่งมาจากภาพใหญ่ของบรรยากาศลงทุนไม่เอื้อ

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) (MST) (ร่วมเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายฯ) ระบุ บมจ. นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น (NAM) ผู้นำเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เกี่ยวกับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ และ ให้บริการแบบครบวงจร ผลประกอบการมีแนวโน้มจะเติบโตสูง ประเมินกำไรปี 2566-68 จะเติบโตเฉลี่ย 28% CAGR เราประเมินราคาเหมาะสมได้เท่ากับ 9.8 บาท บนฐาน P/E เท่ากับ 23 เท่า สูงกว่า P/E หมวดธุรกิจ ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ 20 เท่า เล็กน้อย จากมีศักยภาพในการเติบโตดีกว่า ที่ราคาจองซื้อ 7.7 บาท จะซื้อขาย P/E 18.1 เท่า P/BV 2.4 เท่า และ มีอัตราเงินปันผลตอบแทน 2.5% ในปี 2567

โดย NAM ประกอบธุรกิจ ผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์ และให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร โดยมี “ครอบครัวชัยเทอดเกียรติ” เป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นหลัก 59.14% และ บริษัท อินโนบิก แอลแอล โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม บมจ. ปตท. หรือ PTT เข้าร่วมถือหุ้น 15.0% ในปี 2565 มีมูลค่าลงทุน 780 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 7.43 บาทต่อหุ้น (หลังการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้เป็น 0.50 บาท/หุ้น) จะทำให้เกิด Synergy ร่วมกันและสร้างการเติบโตธุรกิจในอนาคต

ทั้งนี้ NAM ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 297.5 ล้านบาท (595 ล้านหุ้น) ราคาพาร์ 0.50 บาท เป็น 350 ล้านบาท (700 ล้านหุ้น) โดยออกหุ้นใหม่ 105 ล้านหุ้น หรือ คิดเป็น 15% ของหุ้นที่ออกและเสนอขายได้แล้วหลัง IPO และ จากผู้ถือหุ้นเดิม 76 ล้านหุ้น หรือ คิดเป็น 10.86% ของหุ้นที่ออกและเสนอขายได้แล้วหลัง IPO รวม 181 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขาย IPO ต่อประชาชนทั่วไป โดยเงินที่ได้จากการเพิ่มทุน จะใช้เป็นเงินทุนสำหรับขยายการลงทุนในโครงการต่างๆ

NAM มีศักยภาพที่จะเติบโตสูงในอนาคต โดยมีจุดเด่น คือ 1) เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ด้วยความรู้ ความเชี่ยวชาญ และ ประสบการณ์มาอย่างนานร่วม 53 ปี 2) มีทีมงานวิจัย คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง 3) อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และ สินค้าของ NAM มีลักษณะเฉพาะ (Niche) แนวโน้มปี 2566 - 2567 เราประเมินรายได้ จะเติบโตเฉลี่ย 20%CAGR เท่ากับการเติบโตเฉลี่ยในปี 2563 ? 2565 สู่ระดับ 1,878 ล้านบาท และ คาดกำไรจะเติบโตเฉลี่ย 28%CAGR สู่ระดับ 372 ล้านบาท