ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นกว่า 100 จุด ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร(31ต.ค.)พลิกดีดตัวสู่แดนบวก ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 123.91 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 33,052.87 จุด
- ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 26.98 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 4,193.80 จุด
- ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 61.75 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 12,851.24 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 123.91 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 33,052.87 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 26.98 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 4,193.80 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 61.75 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 12,851.24 จุด
ราคาหุ้นของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ดิ่งลงกว่า 2% หลังบริษัทประสบภาวะขาดทุนรายไตรมาสเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี เนื่องจากยอดขายที่ลดลงจากการจำหน่ายยาและวัคซีนที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดในช่วงแรก ขณะที่นักลงทุนส่งแรงเทขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อนที่เฟดเริ่มการประชุมในวันนี้
นักลงทุนเทน้ำหนักในการคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ และในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุม 2 ครั้งสุดท้ายในปีนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 68.7% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค. หลังจากให้น้ำหนักเพียง 57.7% เมื่อเดือนที่แล้ว
ตลาดจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ในวันพฤหัสบดี และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 188,000 ตำแหน่งในเดือนต