CPF เคาะดอกเบี้ย'หุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ' 5 ปีแรก 5.55% เปิดขาย 28 พ.ย.-1 ธ.ค.66
CPF เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ 5 ปีแรกที่ 5.55% ต่อปี พร้อมเสนอขายประชาชนเป็นการทั่วไป 28-30 พ.ย. และ1 ธ.ค.ผ่าน 11 สถาบันการเงิน
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ผู้ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร ภายใต้วิสัยทัศน์ "ครัวของโลก" กำหนดอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน ไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท ("หุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ") โดยในช่วง 5 ปีแรกที่ 5.55% ต่อปี จากนั้นจะปรับอัตราดอกเบี้ยทุก ๆ 5 ปี โดยอ้างอิงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ณ ขณะนั้น บวกด้วยอัตราดอกเบี้ยส่วนเพิ่มเติม (ตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน)
โดยหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไประหว่างวันที่ 28-30 พ.ย. และ 1 ธ.ค. 2566 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 11 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส และบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย)
ทั้งนี้ CPF เป็นผู้ผลิตด้านเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจรที่มีฐานการผลิตใน 17 ประเทศทั่วโลกและเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหารไปกว่า 40 ประเทศ ครอบคลุม 5 ทวีปทั่วโลก โดยจำแนกประเภทธุรกิจหลักของบริษัทฯ ได้เป็น 3 ประเภท คือ 1.ธุรกิจอาหารสัตว์ (Feed)
2.ธุรกิจเลี้ยงสัตว์และแปรรูป (Farm and Processing) และ 3.ธุรกิจอาหาร (Food) ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การเป็น "ครัวของโลก" ซีพีเอฟจึงได้ขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ที่ทันสมัย สนับสนุนการผลิตและการแปรรูปเนื้อสัตว์อย่างมีคุณภาพ ขยายการผลิตอาหารพร้อมรับประทานเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ
รวมไปถึงการคิดค้นนวัตกรรมด้านเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้มาซึ่งระบบการผลิตที่ปลอดภัย มีสินค้าที่สามารถตอบสนองความพึงพอใจและพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้ เช่น หมูชีวา ที่มีไขมันดีและมีโอเมก้า 3 สูง ไก่เบญจาที่เลี้ยงด้วยข้าวกล้องคัดพิเศษเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการดูแลสุขภาพ และอาหารประเภทโปรตีนทางเลือก (Plant Base Food) และยังให้ความสำคัญในการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม และสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างเหมาะสมด้วยความใส่ใจในผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
ทางด้านสถาบันการเงินในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่าย มั่นใจว่า หุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ "CPF" จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นกู้ทั่วไป โดยเฉพาะผู้ลงทุนที่มีความเข้าใจในการลงทุนหุ้นกู้ระยะยาวแบบหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ซึ่งปัจจุบันนี้ ผู้ลงทุนมีความรู้เกี่ยวกับหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ มากขึ้น สะท้อนได้จากการออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ในช่วงที่ผ่านมา ที่ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี ขณะที่หุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ "ซีพีเอฟ"
นอกจากจะมีความโดดเด่นในเรื่องผลตอบแทนแล้ว ยังได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ "A-" และอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรที่ "A+" แนวโน้ม "Negative" จากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 รวมถึงบริษัทฯ ยังมีเป้าหมายในการเดินหน้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยศักยภาพของบริษัทฯ ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมอาหารในระดับสากล ยิ่งตอกย้ำความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี
ที่ผ่านมา CPF ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืน หรือ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) เป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน และได้รับการบันทึกในรายงาน The Sustainability Yearbook 2023 ของ S&P Global ซึ่งเป็นรายงานที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก โดย CPFได้คะแนนติดอันดับ Top 5 ของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร สามารถรักษาตำแหน่งต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สะท้อนความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และมีธรรมาภิบาล (ESG) เพื่อเดินหน้าสร้างความมั่นคงทางอาหาร ภายใต้วิสัยทัศน์เป็น "ครัวของโลก"
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ "ซีพีเอฟ" สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th