ดาวโจนส์ร่วงกว่า 200 จุด หลังปธ.เฟดส่งสัญญาณอาจขึ้นดอกเบี้ยอีกรอบ
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพฤหัสบดี(9พ.ย.)ปรับตัวร่วงลงกว่า 200 จุด ขณะที่นักลงทุนส่งแรงเทขายเพื่อลดความเสี่ยง หลังเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 220.33 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 33,891.94 จุด
- ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 35.43 จุด หรือ 0.81% ปิดที่ 4,347.35 จุด
- ดัชนีแนสแด็ก ลดลง 128.97 จุด หรือ 0.94% ปิดที่ 13,521.45 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 220.33 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 33,891.94 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 35.43 จุด หรือ 0.81% ปิดที่ 4,347.35 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 128.97 จุด หรือ 0.94% ปิดที่ 13,521.45 จุด
ทั้งนี้ นายพาวเวล ซึ่งกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนา 24th Jacques Polak Annual Research Conference ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันนี้ เวลา 14.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลา 02.00 น.ตามเวลาไทย ในหัวข้อ "Monetary policy challenges in a global economy" หรือ "ความท้าทายของนโยบายการเงินในเศรษฐกิจโลก"กล่าวว่า คณะเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ ไม่มั่นใจว่าอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน สูงเพียงพอที่จะควบคุมเงินเฟ้อหรือไม่ บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกรอบ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ
ในการประชุมวาระครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งแผนกสถิติและวิจัยของเฟดเมื่อวานนี้ นายพาวเวล เรียกร้องให้มีการใช้ความยืดหยุ่นในกระบวนการคาดการณ์ของเฟด แต่ไม่ได้ระบุถึงนโยบายการเงินของเฟด หรือแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐแต่อย่างใด
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 217,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 218,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 1,500 ราย สู่ระดับ 212,250 ราย
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 22,000 ราย สู่ระดับ 1.83 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.