WHA จ่อปิดดีลขายที่ดินอื้อลุ้นทะลุเป้า มั่นใจรายได้ปีนี้โต10% ออลไทม์ไฮ
“WHA” แย้ม เจรจาขายที่ดินลูกค้าต่างชาติจำนวนมาก โดยเฉพาะธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า มั่นใจไตรมาส4 ปีนี้นิวไฮ คาดทั้งปี66รายได้โต 10% ทำสถิติออลไทม์ไฮ ลุ้นยอดขายที่ดินทะลุเป้า 2.75 พันไร่-ขายสินทรัพย์เข้ากอง WHART ชูยีลด์เด่น 8.3%ต่อปี รายย่อยเปิดจองซื้อ13-18 ธ.คนี้
จากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะจีนกับสหรัฐ ทำให้ผู้ประกอบการย้านฐานการผลิตออกจากจีน และจากที่นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน โรดโชว์ต่างประเทศดึงบิ๊กธุรกิจเข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย ไมโครซอฟท์ กูเกิล และล่าสุดมีข่าวผู้บริหารเทสล่าเตรียมเดินทางมาไทยเพื่อดูพื้นที่ตั้งโรงงานผลิต หนุนธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมได้รับผลดีโดยตรง
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทดับบลิวเอชเอคอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน)หรือ WHA เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 4 ปี2566 ประเมินว่าจะเติบโตที่ดีสุดของปีนี้ โดยเฉพาะในแง่ของรายได้จากการรับรู้ยอดโอนที่ดินเข้ามาในงบจำนวนมาก และการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอพรีเมี่ยมโกรท(WHART)เพิ่ม
ทั้งนี้ ทำให้มั่นใจว่ารายได้ปีนี้อาจทำได้สูงกว่าเป้าหมายและทำสถิติเป็นออลไทม์ไฮอีกครั้ง หรือ โต 10% จากปี 2565 ที่ 15,566 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายที่ดินมีโอกาสทะลุเป้าหมาย 2,750 ไร่ หลังจากปรับเพิ่มเป้าหมายที่ดินปีนี้เพิ่มอีก 1,000 ไร่ จากเดิมวางไว้ที่ 1,750 ไร่ โดย 9 เดือนปีนี้มียอดขายที่ดินแล้ว 2,000 ไร่ และมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินแล้ว 1,007 ไร่
รวมถึงในไตรมาส 3 ปี 2566 มีที่ดินรอการโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ในมือ 1,493 ไร่ และคาดว่าในไตรมาส 4 ปีนี้ จะมีลูกค้าที่เซ็นสัญญาซื้อขายไปแล้ว เตรียมโอนกรรมสิทธ์อีกเป็นจำนวนมากทั้งประเทศไทยและเวียดนาม
นอกจากนี้ บริษัทยังมีดีลที่อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าต่างประเทศอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าที่มีความต้องการที่ดินแปลงใหญ่กว่า 500-600ไร่ คาดว่าหากทันจะได้เห็นในปีนี้หรือจะได้เห็นความชัดเจนในช่วงต้นปี2567 เป็นต้นไป มีดีลขายที่ดิน และมีการขยายนิคมอุตสาหกรรมในเวียดนามเพิ่มอีก 2 แห่ง ในปีหน้า จากปัจจุบันมี 1 แห่ง จะหนุนแนวโน้มธุรกิจในปี 2567 คาดการณ์ว่าเราคงสร้างออลไทม์ไฮอีกปี
นางสาวจรีพร กล่าวว่า บริษัทคาดรายได้ใน 5 ปีข้างหน้า(ปี 2566-2570) แตะ 22,300 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.4 เท่า จากปี 2565 พร้อมรักษาอิบิทด้ามาร์จินมากกว่า 40% และมุ่งสร้างรายได้อย่างสมดุล มีสัดส่วนรายได้ยอดขาย 53% และรายได้ประจำ 47%
สำหรับปัจจัยสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนดังกล่าว มาจากการเคลื่อนย้ายฐานการลงทุนครั้งใหญ่ของโลก สอดคล้องกับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ(อีอีซี) ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะความขัดแย้งจีน กับไต้หวัน และการแพร่ระบาดโควิด-19 จะเห็นการย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย โดยเฉพาะธุรกิจรถยานยนต์ไฟฟ้าของจีนมาผลิตที่ไทยใช้เป็นศูนย์กลางส่งออกทั่วโลก ซึ่งเราวางเป้าหมายเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ให้กับลูกค้าและประเทศไทย
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่านักลงทุนต่างชาติกลับมาเชื่อมั่นและจะมาเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้นจากการทำงานของรัฐบาลที่ทำงานแบบพุ่งเป้าและใช้จุดแข็งที่ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตในอาเซียนดึงอุตสาหกรรมที่สร้างการเติบโตในอนาคตได้แก่กลุ่มเทคโนโลยีอีวีอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักส์เตอร์
รวมถึงการขยายตัวเศรษฐกิจโลกในปีหน้ามองว่าจะปรับดีกว่าปีนี้เช่นเดียวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้นเช่นกันทั้งภาคส่งออกที่ได้รับอานิสงส์จากเงินบาทอ่อนและท่องเที่ยวจากฐานต่ำปีนี้ขณะที่บริการยังขยายตัวดีต่อเนื่อง
"ส่วนกรณีในวันที่ 28 พ.ย.นี้ ผู้บริหารเทสล่าจะเดินทางดูพื้นที่สร้างโรงงานผลิตในไทย แต่จะเดินทางมาหาเราหรือไม่นั้น เรื่องนี้เรายังไม่สามารถพูดได้ แต่ทางเราได้มีการพูดคุยกับทางเทสล่าไปแล้วในช่วงที่เดินทางไปสหรัฐพร้อมกับนายกฯ รอบที่แล้ว"
พร้อมกันนี้นำทรัพย์สินของWHAคลังสินค้า-โรงงาน3โครงการ3,566.49ล้านบาท ขายเข้ากองทรัสต์ WHART ดันมูลค่ากองฯแตะ 55,000 ล้านบาท ได้ประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนต่อหน่วยแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เท่ากับ0.79บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราการจ่ายประโยชน์ตอบแทนประมาณ8.23%(ขึ้นอยู่กับราคาเสนอขายสุดท้าย)
ที่งนี้ การเพิ่มทุนของกองทรัสต์WHARTครั้งนี้ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมมีสิทธิสามารถจองซื้อได้ในวันที่1, 4และระหว่างวันที่6ถึง8ธ.ค. 2566ที่ราคาสูงสุดที่9.60บาทต่อหน่วย ส่วนประชาชนทั่วไปสามารถจองซื้อในวันที่13ถึง15และวันที่1 8ธ.ค.2566
"ทั้งนี้กองทรัสต์WHARTยังคงวางเป้าหมายเพิ่มสินทรัพย์ราว3,000-5,000ล้านบาทต่อปีหรือคิดเป็นพื้นที่100,000กว่าตารางเมตรต่อปีปัจจุบันสินทรัพย์ฟรีโฮล 52% เป็นสัดส่วนหลักมีอัตราการเช่า 90%”