ดาวโจนส์ปิดไร้ทิศทาง นักลงทุนจับตาแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร(5ธ.ค.)ปรับตัวไร้ทิศทาง หลังจากสหรัฐเผยข้อมูลการจ้างงานใหม่ ที่เพิ่มการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้นเร็วที่สุดเดือนมี.ค.นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 79.88 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 36,124.56 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 2.60 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 4,567.18 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 44.42 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 14,229.91 จุด
ทั้งนี้ นักลงทุนกำลังจับตาทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยเจ้าหน้าที่เฟดเริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 12-13 ธ.ค.นี้
นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนมี.ค. 2567
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.5% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค. 2566 และให้น้ำหนัก 83.8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนม.ค. 2567
ด้านสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 617,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 8.733 ล้านตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2564 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 9.300 ล้านตำแหน่ง
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังปรับลดตัวเลขของเดือนก.ย.สู่ระดับ 9.350 ล้านตำแหน่ง จากเดิมรายงานที่ระดับ 9.553 ล้านตำแหน่ง
ตัวเลข JOLTS ถือเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ยของเฟด