‘หุ้นเทคฯ สหรัฐ’ แค่ปรับฐานยังไร้สัญญาณ ‘ขาลง’ กองทุนชี้จังหวะสะสม

นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวลงเป็นวันที่สองอีก 1.0% หลังรายงานการประชุมเฟดส่งสัญญาณแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอาจอยู่สูงนานกว่าที่ตลาดคาด จึงเกิดแรงขายทำกำไรหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงปลายปีก่อน นอกจากกลุ่มเทคฯ แล้วยังพบว่า กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยย่อตัวลงแรง 1.9% จากภาพตลาดแรงงานสหรัฐที่มีแนวโน้มชะลอตัว ขณะที่กลุ่มพลังงานบวก 1.5% ตามราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวจากความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์

สัญญาณการปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งการขายรอบนี้จะเป็นการจบรอบของตลาดหรือไม่นั้น นักลงทุนสถาบันอย่างฝั่งกองทุน มอง "เป็นการปรับฐานปกติ" และ "เป็นโอกาสสะสมสำหรับใครที่ตกขบวนรอบก่อน"

"ไชยวัฒน์ คมโสภาพงศ์" ผู้ช่วยผู้อำนวยการ กลยุทธ์การลงทุน บลจ.เอ็มเอฟซี กล่าวว่า ช่วง 2 วันมานี้ กลุ่มเทคฯ NASDAQ-100 ปรับตัวลง 3-4% ถือเป็นการปรับฐานตามปกติไม่ได้น่ากังวล เพราะค่าเฉลี่ยตลาดที่ปรับฐานจะมีการปรับตัวลงราว 5-10% หากเทียบกับจุดต่ำสุดในเดือนต.ค. จนถึงช่วงใกล้สิ้นปีก่อน มีการปรับตัวขึ้นมาถึง 20% ไปแล้ว

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลง จากแรงเทขายทำกำไร เกิดขึ้นในหุ้นที่ปรับขึ้นมากปีก่อน ประกอบกับเฟดยังส่งสัญญาณแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอาจอยู่สูงนานกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งตลาดคาดเฟดจะลดดอกเบี้ยปีนี้ไปแล้วถึง 6 ครั้ง ปรับลดลงครั้งละ 0.25% หรือปรับลดลง 1.5% ปีนี้

ในมุมการลงทุนลักษณะปรับฐานปกติ เมื่อตลาดย่อตัวมองเป็นจังหวะการเข้าสะสม สำหรับคนที่เข้าไปทันในรอบแรก หุ้นสหรัฐกลุ่มเทคฯ ยังมีความน่าสนใจ ระยะสั้นภาพทางเทคนิค เน้นหุ้นขนาดกลาง และเล็กส่วนระยะกลางและยาว หุ้นเทคฯ ขนาดใหญ่ ยังน่าสนใจ แต่ต้องคัดหุ้นที่ยังเติบโต มีศักยภาพคู่แข่งไม่สามารถเข้ามาแข่งขันได้ อย่าง Apple Microsoft Testa

“ดนัย อรุณกิตติชัย”ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารจัดการกองทุน บลจ.บัวหลวง มองว่าหุ้นสหรัฐกลุ่มนี้ ยังคงมีทิศทางเติบโตตามกระแสของกลุ่มเทคโนโลยี ประกอบกับเรื่องของนโยบายการเงินที่น่าจะสนับสนุนหุ้นเติบโตต่อเนื่อง แม้ในช่วงสั้นจะยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับ Timing ของการลดดอกเบี้ย แต่ในภาพรวมยังคงเติบโตได้ดี และเหมาะสมกับการทยอยสะสมในช่วงปรับฐาน

“บดินทร์ พุทธอินทร์” ผู้อำนวยการส่วนกลยุทธ์การลงทุน ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ.อีสท์สปริง มองการปรับตัวลงของหุ้นสหรัฐรอบนี้ยังไม่มีปัจจัยที่ต้องแพนิกว่าจะหมดรอบขาขึ้นเป็นขาลงแต่อย่างใด เน้นหุ้นเติบโต และหุ้นเทคฯ สหรัฐ รวมถึงหุ้นสหรัฐที่ราคายังไม่ปรับขึ้นมาแรงในปีที่ผ่านมา เช่น กลุ่มเฮลท์แคร์ เน้นกลุ่มยา และโรงพยาบาลรวมถึงรีทสหรัฐ ด้วยยังมีความน่าสนใจเข้าลงทุน

"ในช่วงตลาดปรับฐาน จริงๆ น่าจะเกิดชัดขึ้นในเดือนมี.ค.รอเฟดประกาศ Dot Plot รอบใหม่ของปีนี้ ถ้าลดดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดไปแล้ว 4-6 ครั้งในปีนี้ เชื่อว่าตลาดหุ้นไปต่อได้ในครึ่งปีหลัง แต่หากเฟดยังคงหรือลดดอกเบี้ยน้อยกว่า แน่นอนว่า น่ามีแรงปรับพอร์ตเกิดขึ้นช่วงนั้น" 

 

 

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์