‘เอกซเรย์’ พอร์ต ‘ประกันสังคม’ มูลค่า 2.97 พันล้านบาท ถือหุ้นอันดับ 1 หลักทรัพย์ไหนบ้าง?
กองทุนประกันสังคม ไตรมาสที่ 3 ณ 30 กันยายน 2566 มีมูลค่าทั้งสิ้น 2,335,183 ล้านบาท พบลงทุนในตลาดหุ้น 78 หลักทรัพย์ แบ่งเป็นลงทุนในหุ้น 43 หลักทรัพย์ และกองทุนรวมอสังหาฯ 35 หลักทรัพย์
Key points
-
ประกันสังคมลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งสิ้น 78 หลักทรัพย์ แบ่งเป็นลงทุนในหุ้น 43 หลักทรัพย์ และกองทุนรวมอสังหาฯ 35 หลักทรัพย์
-
กองทุนประกันสังคมเข้าถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 10 หลักทรัพย์ ในกองทุนอสังหาฯ มีมูลค่ากว่า 2,974.32 ล้านบาท
-
สถานะการบริหารเงินลงทุนกองทุนประกันสังคม ไตรมาสที่ 3 ณ 30 กันยายน 2566 มีมูลค่าทั้งสิ้น 2,335,183 ล้านบาท
‘สำนักงานประกันสังคม’ ได้รับความสนใจจากสาธารณชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหล่า ‘ผู้ประกันตน’ ที่อยากจะรู้ว่าหน่วยงานนี้นำเงินของเราไปลงทุนในหลักทรัพย์อะไรบ้าง ซึ่งปัจจุบันพอร์ตประกันสังคมใหญ่มาก เม็ดเงินลงทุน 2.3 ล้านล้านบาทในหลากหลายหลักทรัพย์
ทั้งนี้ “กรุงเทพธุรกิจ” ได้รวบรวมข้อมูลที่ประกันสังคมลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า ณ วันที่ 10 มกราคม 2567 เข้าไปลงทุนทั้งสิ้น 78 หลักทรัพย์ แบ่งเป็นลงทุนในหุ้น 43 หลักทรัพย์ และกองทุนรวมอสังหาฯ 35 หลักทรัพย์
โดยพบว่า เข้าถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 10 หลักทรัพย์ ซึี่งเป็นกองทุนอสังหาฯ ทั้งสิ้น มีมูลค่ากว่า 2,974.32 ล้านบาท (ข้อมูล 10 มกราคม 2567)
- กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอราวัณ โฮเทล โกรท หรือ ERWPF ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 1 จำนวน 50,821,200 หุ้น หรือ 28.86% มูลค่า 393.86 ล้านบาท (ราคาปิด ณ วันที่ 10 ม.ค.67 ที่ 7.75 บาท)
- ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แกรนด์ โฮสพีทาลิตี้ หรือ GAHREIT ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 1 จำนวน 37,876,100 หุ้น หรือ 21.58% มูลค่า 284.07 ล้านบาท (ราคาปิด ณ วันที่ 10 ม.ค.67ที่ 7.50 บาท)
- กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เคพีเอ็น หรือ KPNPF ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 1 จำนวน 37,948,100 หุ้น หรือ 21.08% มูลค่า 141.93 ล้านบาท (ราคาปิด ณ วันที่ 10 ม.ค.67ที่ 3.74 บาท)
- ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ หรือ LHSC ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 1 จำนวน 53,387,700 หุ้น หรือ 10.94% มูลค่า 533.88 ล้านบาท (ราคาปิด ณ วันที่ 10 ม.ค.67ที่ 10.00 บาท)
- กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์มออฟฟิศ หรือ POPF ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 1 จำนวน 68,277,500 หุ้น หรือ 14.18% มูลค่า 443.80 ล้านบาท (ราคาปิด ณ วันที่ 10 ม.ค.67ที่ 6.50 บาท)
- กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แสนสิริ ไพร์มออฟฟิศ หรือ SIRIP ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 1 จำนวน 46,820,800 หุ้น หรือ 27.54% มูลค่า 313.70 ล้านบาท (ราคาปิด ณ วันที่ 10 ม.ค.67ที่ 6.70 บาท)
- ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา หรือ SRIPANWA ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 1 จำนวน 63,129,815 หุ้น หรือ 22.62% มูลค่า 314.39 ล้านบาท (ราคาปิด ณ วันที่ 10 ม.ค.67ที่ 4.98 บาท)
- กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียล คอมเพล็กซ์ หรือ TU-PF ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 1 จำนวน 80,000,000 หุ้น หรือ 76.75% มูลค่า 48.80 ล้านบาท (ราคาปิด ณ วันที่ 10 ม.ค.67ที่ 0.61 บาท)
- กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานา หรือ URBNPF ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 1 จำนวน 21,600,000 หุ้น หรือ 30.00% มูลค่า 34.99 ล้านบาท (ราคาปิด ณ วันที่ 10 ม.ค.67ที่ 1.62 บาท)
- ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ หรือ WHABT ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 1 จำนวน 55,017,500 หุ้น หรือ 27.24% มูลค่า 464.90 ล้านบาท (ราคาปิด ณ วันที่ 10 ม.ค.67ที่ 8.45 บาท)
รายงานข้อมูลจากสำนักงานประกันสังคม ระบุถึงสถานะการบริหารเงินลงทุนกองทุนประกันสังคม ไตรมาสที่ 3 ณ 30 กันยายน 2566 มีมูลค่าทั้งสิ้น 2,335,183 ล้านบาท โดยลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงเพื่อความยั่งยืนของกองทุนในระยะยาว รวมทั้งพิจารณาลงทุนใน หลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน ดังนี้
- พันธบัตรรัฐบาล ธปท. รัฐวิสาหกิจ ที่ก.คลังค้ำประกัน มูลค่า 1,326,502 ล้านบาท หรือคิดเป็น 56.81%
- หน่วยลงทุนตราสารหนี้ ตปท. ที่ได้อันดับความน่าเชื่อถือ มูลค่า 273,987 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.73%
- ตราสารทุนไทย (หุ้นไทย) มูลค่า 233,017 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.98%
- หน่วยลงทุนตราสารทุน ตปท. มูลค่า 265,688 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.38%
- หน่วยลงทุนอสังหา, โครงสร้างพื้นฐาน, ทองคำ มูลค่า 100,965 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.32%
- หุ้นกู้เอกชนหรือ securitized debt ที่ได้รับอันดับความ น่าเชื่อถือ มูลค่า 76,659 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.28%
- เงินฝาก มูลค่า 56,525 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.42%
- พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ที่ ก.คลัง ไม่ค้ำประกัน มูลค่า 1,840 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.08%
ปัจจุบันกองทุนมีการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง จำนวน 1,733,673 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 74.24 และลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยง จำนวน 601,510 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25.76 ซึ่ง เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการประกันสังคมว่าด้วยการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุนประกันสังคม พ.ศ. 2559 ที่กำหนดให้ลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 และลงทุนในหลักทรัพย์ที่มี ความเสี่ยงไม่เกินร้อยละ 40
โดยมีการกระจายการลงทุนในประเทศ จำนวน 1,722,976 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 73.78 และต่าง ประเทศ จำนวน 612,207 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 26.22 ซึ่งเป็นไปตามประกาศคณะกรรมการประกันสังคม เรื่อง หลักเกณฑ์วิธีการ เงื่อนไข หรือสัดส่วนการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ (ฉบับที่ 5) ที่กำหนดให้ ลงทุนในต่างประเทศได้สูงสุดไม่เกินร้อยละ 32 ของเงินกองทุน
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2534 จนถึงปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 30 กันยายน 2566) เงินลงทุนรวมของกองทุนประกันสังคม มูลค่ารวม 2,335,183 ล้านบาท ประกอบด้วยเงินจาก 2 ส่วนหลัก คือ เงินสมทบสะสมจากนายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐบาล รวมจำนวน 1,502,430 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 64.34 และเงินผลประโยชน์สะสมที่ได้รับจากการลงทุน จำนวน 832,753 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 35.66 โดยมีสัดส่วนของเงินสมทบและเงิน ผลประโยชน์สะสมจากการลงทุนในแต่ละปีย้อนหลังเป็นเวลา 10 ปี
ขณะที่ในส่วนของผลประโยชน์สะสมจากการลงทุน ประกอบด้วยผลประโยชน์จากการลงทุนที่รับรู้แล้ว และ ผลประโยชน์จากการลงทุนที่ยังไม่รับรู้ซึ่งในส่วนของผลประโยชน์จากการลงทุนที่รับรู้แล้ว ประกอบด้วย ดอกเบี้ยรับและกำไรจากการขายตราสารหนี้และ เงินปันผลรับและกำไรจากการขายตราสารทุน โดยแสดง ข้อมูลผลประโยชน์จากการลงทุนที่รับรู้แล้วของแต่ละปีย้อนหลังเป็นเวลา 10 ปี
ซึ่งในปี 2566 (ณ วันที่ 30 กันยายน 2566) กองทุนประกันสังคมมีผลประโยชน์จากการลงทุนที่รับรู้ แล้วทั้งสิ้น จำนวน 43,714 ล้านบาท ประกอบด้วย ดอกเบี้ยรับและกำไรจากการขายตราสารหนี้จำนวน 30,369 ล้านบาท และเงินปันผลรับและกำไรจากการขายตราสารทุน จำนวน 13,345 ล้านบาท