หุ้นไทยวันนี้ (23 ม.ค.) ปิดตลาดดิ่ง 13.38 จุด หวั่นกำไรบจ.หด หลังรบ.เผย GDP โตต่ำ
หุ้นไทยวันนี้ (23 ม.ค. 67) “ตลาดหุ้นไทย”วันนี้ ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,356.54 จุด ลบ 13.38 จุด หรือ 0.98% โบรกฯ ชี้ หุ้นไทยดิ่งหนักหลัง "กระทรวงการคลัง" เปิดคาดการณ์จีดีพีไทยปี 2566 โตแค่ 1.8% สวนทางแบงก์ชาติ คาดพรุ่งนี้ซึมต่อในกรอบ 1,350-1,365 จุด
ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทยวันนี้” วันนี้ (23 ม.ค. 66) ปิดตลาดอยู่ที่ 1,356.54 จุด ลบ 13.38 จุด หรือ 0.98% โดย“ตลาดหุ้นไทย” ผันผวนในทิศทางปรับตัวลงตลอดทั้งวันซึ่งทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,352.48 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,375.76จุด มูลค่าซื้อขาย 48,638.21 ล้านบาท
หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่
- KTB มูลค่า 2,932.53 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 16.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.62%
- KBANK มูลค่า 2,830.74 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 121.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.41%
- AOT มูลค่า 2,469.74 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 59.25 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.25%
- JMT มูลค่า 1,738.65 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 21.20 บาท ลดลง 2.20 บาท หรือ 9.40%
- CPALL มูลค่า 1,345.19 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 51.75 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.43%
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส กล่าวว่า วันนี้"ดัชนีตลาดหุ้นไทย"ปรับตัวลดลงมากกว่าภูมิภาคที่ 1% จากกระแสจีดีพีไทยปี 2566 ออกมาต่ำคาดการณ์ที่ 1.8% และปี 2567 อยู่ที่ 2.8% ส่งผลให้มีความเป็นไปได้ที่คาดการณ์ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) อาจได้รับการปรับลดลงอีก
“ในสภาวะที่ตลาดมี Pressure อยู่แล้วถ้ามีประเด็นร้ายเข้ามาแม้แต่นิดเดียวก็สามารถกดตลาดให้ดิ่งลงไปได้อีก”
โดยมองว่าวันพรุ่งนี้ (24 ม.ค.) ดัชนีฯ มีแนวโน้มซึมเพราะ Sentiment ยังไม่ดี คาดแกว่งในกรอบ 1,350-1,365 จุด แนะเก็บ ADVANC LH และ PTTEP
ในขณะที่นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพ์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่น พาร์ทเนอ เปิดเผยว่า ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงเพราะไม่มีปัจจัยบวกเข้ามากระตุ้นตลาด ประกอบกับยังมีประเด็นทางการเมืองที่ต้องติดตามโดยเฉพาะประเด็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะได้กลับเข้ามาในสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่
ทั้งนี้ ในประเด็นเรื่องเศรษฐกิจไทย นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) ในทิศทางตรงข้ามกับรัฐบาลว่า ปัจจุบันนโยบายทางการเงินอยู่ในสถานะปกติ (Neutral) และคาดการณ์เศรษฐกิจไทยที่ออกมาไม่ได้บ่งบอกถึงวิกฤติ ทว่าเป็นเพียงการเติบโตที่ช้ากว่าคาดการณ์เท่านั้น
นอกจากนี้ นายเศรษฐพุฒิ กล่าวกับรอยเตอร์สต่อว่า ไม่กังวลกับอัตราเงินเฟ้อติดลบ โดยปัญหาของเศรษฐกิจไทยปัจจุบันเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างดังนั้นการอัดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นตามที่รัฐบาลต้องการจึงไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา
“สิ่งที่เราเห็นปัจจุบันคือการฟื้นตัว เพียงแต่มันช้ากว่าคาดการณ์เท่านั้น ซึ่งมันคนละอย่างกับสิ่งที่เรียกว่าวิกฤติเลย”
อ้างอิง