‘ปู่บัฟเฟตต์’ ขายทิ้งหุ้น Apple กว่า 1% เหตุยอดขายในจีนฮวบ - มาร์เก็ตแคปร่วง
ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนของเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ (Berkshire Hathaway) ของนักลงทุนชื่อดังวอร์เรน บัฟเฟตต์ ปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น Apple ลง 1% หรือ 10 ล้านหุ้นในไตรมาสที่สี่ของปีที่แล้ว หลังยอดขายในจีนลดลง และเสียตำแหน่งบริษัทที่มีมาร์เก็ตแคปมากที่สุดให้ไมโครซอฟท์
สำนักข่าววอลล์สตรีท เจอร์นัล (Wall Street Journal) รายงาน (15 ก.พ.67) ว่า ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนของเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ (Berkshire Hathaway) ปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น Apple ลง 1% หรือ 10 ล้านหุ้นในไตรมาสที่สี่ของปีที่แล้ว
โดยหากอ้างอิงตามหนังสือชี้ชวนการลงทุน พบว่า เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ขายหุ้น Apple ประมาณ 10 ล้านหุ้น หรือ 1% ในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี 2566 ทําให้มีสัดส่วนการถือหุ้น 5.9% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.67 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.179 ล้านล้านบาท)
ก่อนหน้านี้หุ้นของ Apple ทะยานขึ้น 367% ตั้งแต่ปลายปี 2561 ในขณะที่ S&P 500 เพิ่มขึ้นประมาณสองเท่า ซึ่งบัฟเฟตต์เคยยกย่องหุ้น Apple ในการประชุมประจําปีของเบิร์กเชียร์เมื่อปีที่แล้ว โดยกล่าวว่า "เป็นธุรกิจที่ดีกว่าธุรกิจใดๆ ที่เราเป็นเจ้าของ"
อย่างไรก็ตาม หุ้น Apple ไม่สามารถรักษาโมเมนตัมในการเติบโตได้เมื่อเทียบกับบรรดาหุ้นเทคโนโลยีคู่แข่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ได้จนกระทั่งสูญเสียตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดให้ไมโครซอฟท์
นอกจากนี้ Apple ยังเผชิญกับความท้าทายมากมาย รวมถึงการตรวจสอบด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับนโยบายของ App Store ยอดขายที่ลดลงในจีน และความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโต จนกระทั่งนักวิเคราะห์หลายคนได้ปรับลดระดับหุ้นดังกล่าวลง
โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หุ้น Apple ปรับตัวลดลงไปแล้วกว่า 4% ในขณะที่วันนี้เวลา 11.35 หุ้น Apple อยู่ที่ 184.15 ดอลลาร์ ลดลง 0.89 ดอลลาร์ หรือ 0.48%
อ้างอิง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์