ผ่าอาณาจักร โมเดลธุรกิจ หุ้น MGI ต่อยอดนางงาม กระจายฐานลูกค้า มุ่งสู่รายได้
ผ่าอาณาจักร โมเดลธุรกิจ หุ้น MGI ต่อยอดนางงาม กระจายฐานลูกค้า มุ่งสู่รายได้โตปีนี้เพิ่มอีก 2 เท่า จากปีก่อนหน้า ผ่านช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก 100%
ชั่วโมงนี้ชื่อ "บอส ณวัฒน์" ไม่เพียงเป็นที่รู้จักในโลกนางงามเท่านั้นแล้ว แต่ยังลามไปวงการตลาดหุ้นด้วย เพราะเขาเป็นผู้คุมบังเหียนใหญ่ MGI หุ้นมหัศจรรย์แห่งปี ที่เคยเปิดศึกวิวาทะกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมาแล้ว ซึ่งธุรกิจของ MGI น่าจับตาอย่างยิ่งในกระบวนการทำโมเดลธุรกิจจับจ้องได้จริงจากการต่อยอดธุรกิจนางงาม ปลุกปั้นให้เป็น KOL หรือ Influencer จนได้แฟนคลับ และยังกระจายฐานลูกค้า สร้างรายได้งดงาม
โดยในปีนี้ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI ตั้งเป้ารายได้เติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากปีที่ผ่านมา โดยแบ่งกิจกรรมอีเวนต์ตลอดทั้งปีจะสามารถสร้างรายได้เข้ามาอย่างเป็นกอบเป็นกำ โดยจุดแข็งของ MGI มีทีมเวิรฺ์คที่ใหญ่มากทำงานด้วยกันมาเป็น 10 ปี ปัจจุบันมุ่งสู่ช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก 100%
โดยในไตรมาส 1 - 2 เป็นช่วงอีเวนต์ใหญ่ของการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ตลอดระยะของการเก็บตัวจนถึงการประกวดใหญ่ ผู้เข้าประกวดทั้ง 77 จังหวัด หนึ่งในกิจกรรมที่จะสร้างรายได้จาการขายสินค้าคือ จะให้นางงามทั้ง 77 จังหวัด live stream ขายของพร้อมกัน ในระยะเวลา 2 ชั่วโมง หากใครได้ยอดที่มากสุดเป็นอันดับจะได้ขึ้นภาพของตัวเองคู่กับ “บอส ณวัฒน์” ในสินค้านั้นๆ ในจำนวน 1 แสนชิ้น ขณะเดียวกันผู้สนับสนุน หรือสปอนเซอร์การประกวดในปีนี้มีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากปีที่แล้ว
และยังมีอีกหลายเกมในการแข่งขันกันขายของ และทุกๆ การแข่งขันจะมีการโหวดด้วยเงินสด เช่นวันที่ 5 มี.ค.2567 มีการคัดสรรนางงาม 8 คนจาก 77 คน ขึ้นมาเต้นเปิดงานเพียงวันเดียวก็จะมีรายได้จากเงินโหวตอีกประมาณ 1 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีรายได้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ในช่วงไตรมาส 3 เช่น คอนเสิร์ตอิงฟ้ามหาชน 1 และ 2 ที่ประสบความสำเร็จ ในปีนี้จะเป็นอิงฟ้ามหาชน 3 บัตรราคา 1 หมื่นบาท หมดทุกครั้ง รวมถึงคอนเสิร์ตในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าช่วงเดือนมี.ค. - เม.ย.2567 จะมีกิจกรรมงานอีเวนต์ของ MGI เข้ามามาก โดยเฉพาะการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ในการสร้างรายได้ แต่ในช่วงที่พีคที่สุดคือ ช่วงไตรมาส 4 เพราะเนื่องจากจะมีการประกวดมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่มาจากทั่วโลกประมาณ 90 กว่าประเทศ โดยจะมีรายได้เข้ามาอีก
ขณะเดียวกัน ดึงดาราชื่อดังอย่าง 'แพท ณปภา ตันตระกูล' ร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์กับ “อิงฟ้า” กับผลิตภัณฑ์วิตามินซี
นอกจากการจัดประกวดนางงามเพื่อสร้างฐานไปยังรายได้สู่สินค้าต่างๆ แล้ว “ณวัฒน์” เผยว่า ในปีนี้มีโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่อีก 2 โปรเจกต์ โดยโปรเจกต์แรกเป็นการค้นหานักร้องหญิง T-Pop วงใหม่ จำนวน 8 คน เป็นการคัดเลือกจากผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ปี 2024 ทั้งหมด 77 คน ในช่วงเดือนมีนาคม 2567 นี้ และจะทำการตัดสิน ในวันที่ 6 เมษายน 2567
และการเปิดตัวซีรีส์เรื่องใหม่ ชื่อ “หยดฝนกลิ่นสนิม” นักแสดงนำ นางสาวอิงฟ้า วราหะ และนางสาวชาล็อต ออสติน โดยซีรีส์มีความยาวจำนวนประมาณ 10 ตอน และจะเริ่มออกอากาศช่วงไตรมาสที่ 3/2567 โดยรับชมทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
นอกจากนี้พันธมิตรที่เข้ามาร่วมลงทุน ณ ขณะนี้จะมีบริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KAMART ที่ลงทุนเป็นเงินสดด้วยกัน คนละครึ่ง และมีการเปิดตัวไปแล้ว ภายใต้บริษัท KMGI และมีสินค้าที่ออกร่วมกันทั้งผลิตภัณฑ์บนใบหน้า และร่างกาย ได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ไปแล้วคือ ชาล็อต ออสติน นอกจากนี้ แพท ณปภา ที่ทำในส่วนของวิตามินซี ในอนาคตจะมีการร่วมงานกับศิลปิน และดาราอีกหลายคน
ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันเทรนด์การตลาดไม่ได้เป็นแค่เรื่องของ AI เพียงอย่างเดียว โดยใช้ร่วมกันกับความรู้สึก อารมณ์ของมนุษย์ด้วย เพราะฉะนั้น ตัวอย่าง affiliate marketing เป็นการหาพรรคพวกในโลกออนไลน์ โดยมนุษย์จะใช้สิ่งเหล่านี้เป็นการซัพพอร์ต ทุกวันนี้ผู้คนไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อความสะดวกสบายอีกต่อไป แต่เป็นการใช้เพื่อสร้างคอนเน็กชัน
ขณะที่ออนไลน์ และออฟไลน์ถือว่า จบไปแล้ว เนื่องจากเส้นทางเดินของลูกค้ามีตั้งแต่เช้าไปจรดเย็น ปัจจุบันกลายเป็นโลกใบเดียวกัน และการเชื่อมโยงทั้งโลกไว้ด้วยกันหมด โดยอาศัย Data Analysis เพราะฉะนั้นข้อมูลของคนทั่วโลกจะอยู่ในแอปพลิเคชัน และคนที่สร้างแพลตฟอร์มขึ้นมา
การตลาดในอดีตถึงปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก เมื่อสมัยก่อนเราจะใช้สินค้าเป็นโปรดักต์เป็นศูนย์กลาง แต่วันนี้เราใช้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เช่น การขายสินค้าผ่านออนไลน์ เราต้องใส่เรื่องราวต่างๆ เข้าไป ต้องมีการจับเทรนด์ จึงกลายเป็นโลกของ Human Digital Platform ที่มีเรื่องอารมณ์ของมนุษย์จะถูกบอกเล่าและสื่อสารอย่างรวดเร็ว ซึ่งเทรนด์ปัจจุบันเป็นแบบนี้ ดังนั้นนักการตลาดต้องมีการจับกระแสอย่างรวดเร็ว
เพราะฉะนั้นจะเห็นว่า การปรับตัวในทุกวันนี้จะต้องใช้เครื่องมือ Social Listening ต้องจับกระแสสังคม และต้องดำเนินกิจกรรมอย่างรวดเร็วที่สุด และทันทีด้วย เป็นการตลาดที่เรียกว่า นาทีต่อนาที
ขณะที่การขายผ่านช่องทาง Tikkok ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นในรูปแบบ Social Commerce เป็นเพียงเทคนิคการขายอย่างหนึ่งที่มองว่า เป็นเพียงระยะสั้นๆ แต่วันนี้ที่นักการตลาดทำใน Tikkok อาจจะต้องมาพิจารณาว่าจะทำอย่างไรให้เกิดขึ้นได้ในระยะยาว มากกว่าที่จะเห็นมาเต้น และร้องเพลง และมีการซื้อสินค้า และก็หายไป
ต้องยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในออนไลน์ทุกวันนี้ ลูกค้ายังมีความกังวล และเกิดความเสี่ยงว่า สินค้าจะตรงปกหรือไม่ และมักจะมีราคาถูกกว่าสินค้าที่เป็น Onsite ดังนั้นจะเห็นว่า สินค้าที่ขายใน Tikkok ไม่สามารถสร้างราคาที่แพงได้ เพราะลูกค้ายังเห็นความเสี่ยงในโลกของโลกดิจิทัลเยอะ ซึ่งการตลาดต่อไปอาจจะมีการรับประกันสินค้าให้ลูกค้าด้วยได้ หรือมี Onsite ควบคู่เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า เพราะถ้ามีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งจะไม่เกิดความเชื่อมั่น และไม่เกิดความยั่งยืนได้
นอกจากนี้ มีบางสินค้าที่นำ Influencer มาใช้เพื่อลดความเสี่ยง และเกิดความน่าเชื่อถือมากขึ้น ดังนั้นดาราหรือ Influencer จะเป็นตัวแบกภาระความเสี่ยงหากสินค้านั้นดีไม่จริง
ภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ กรุ๊ป จำกัด
ภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ กรุ๊ป จำกัด (Media Intelligence Group) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บ้านเรามีวิวัฒนาการของนิยมใช้ Influencer ช่วยในการสื่อสารทางการตลาดมากขึ้น เนื่องจากทั่วโลกใช้โซเชียลมีเดียนำ คนดูทีวีน้อยลง และคนไม่นิยมเหมือนสมัยก่อน แต่คนดันไปเชื่อ Influencer ในสายงานของลูกค้าโดยตรงมากกว่า เช่น คนที่เป็นทาสแมว ทาสหมา คนก็มักจะชอบ Influencer ที่คุย และมีความรู้เรื่องแมว หมา ขณะที่คนที่ชอบสายลงทุนหุ้น หรือเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี ก็จะตาม Influencer ในเรื่องนั้นๆ
ปัจจุบันจะเห็นการตลาดในแบรนด์ใหญ่ๆ จะไม่ใช่พรีเซนเตอร์เหมือนสมัยก่อน ที่ใช้เพียงคนเดียวแล้วจบ แต่ทุกวันนี้ด้วยกลุ่มเป้าหมายที่มีความซับซ้อน จึงจำเป็นต้องใช้ Influencer หลากหลายคน ปัจจุบัน Influencer จึงได้รับความนิยมมากขึ้น
ขณะที่ affiliate marketing ที่มีการพูดถึงบ่อยมากขึ้น เมื่อ Influencer มีบทบาทมากกับแฟนคลับ เมื่อใช้หรือขายสินค้าอะไร จะได้เรียกได้ว่า ป้ายยาได้ดีกว่าดารา นักแสดง เพื่อเขาเชื่อมากกว่า จึงกลายเป็นเครื่องมือของนักการตลาดที่ใช้ Influencer ในการป้ายยา หรือเรียกว่า affiliate marketing ทุกวันนี้ Influencer จึงมาทำ affiliate มากขึ้น และได้รายได้ส่วนแบ่งจากเจ้าของสินค้า
กรณีของ “ณวัฒน์” มีแอสเซทคือ ตัวนางงาม มีแฟนคลับมากมาย ไม่ใช่แค่ อิงฟ้ากับชาล็อต เท่านั้น จึงอาศัยพลังของนางงาม ที่จะผลักดันสินค้าได้ ซึ่งมองว่า “ณวัฒน์” สามารถทำได้ แต่ “แอน จักรพงษ์” ทำไม่ได้ เพราะยังไม่มี Influencer ที่ทรงพลัง จึงกลายเป็นโมเดลธุรกิจ ที่เอา Influencer ที่มาฐานกลุ่มเป้าหมายมาขาย แล้วให้ส่วนแบ่งกับ Influencer ไป
ในอนาคตการทำการตลาดผ่าน Influencer ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง กลุ่มเป้าหมายกระจายเป็นกลุ่มย่อยมากขึ้น ขณะที่ ปัจจุบันมี Influencer มีการสร้างคอนเทนต์ที่สอดรับกับกลุ่มย่อยมากขึ้นไม่ว่า กลุ่มรักหมา รักแมว เป็นต้น
แต่อย่างไรก็ตาม การขายในรูปแบบดังกล่าวอาจะแผ่วลงก็ได้ในอนาคต เพราะอาจจะเป็นแค่กระแส แต่ต้องดูด้วยว่า Influencer มีการวางตัวดี มีการีวิว affiliate โปรโมตสินค้าได้ดีก็ยังคงมีฐานลูกค้าที่ยังคงซื้อตาม เพราะอาจจะไม่ได้มีการขายของบ่อยจนเกินไปจนทำให้ลูกค้าไม่เชื่อถือได้
กิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
กิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลไว้ก่อนหน้านี้ว่า หุ้น MGI แม้ผลประกอบการจะออกมาในเกณฑ์ดี แต่ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมาที่มาก เป็นการแบกรับความคาดหวังของนักลงทุนไว้ค่อนข้างมาก จึงทำให้หุ้นมีความผันผวนได้ค่อนข้างมากเช่นกัน ทั้งนี้หุ้น MGI อาจจะเข้าสู่จุดของการพักตัว เพื่อรอดูพัฒนาการว่า ในระยะกลาง ถึงยาว
โดยภาพความเคลื่อนไหวในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีการดึงนักลงทุนใหม่ๆ และเงินใหม่ๆ เข้ามา ซึ่งทำให้หุ้น MGI อยู่ในระดับที่ผันผวน จนเกินกว่าปัจจัยพื้นฐานระยะสั้นมากเกินไป จากนี้ไปกระบวนการกลไกของตลาดจะช่วยในการค้นพบราคา แม้ว่า ณ ขณะนี้พื้นฐานของราคาอาจจะยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ระดับที่เท่าไร แต่หลังจากนี้กลไกของตลาดจะช่วยในการค้นพบราคา ตรงจุดนี้นักลงทุนที่มีหุ้น MGI อยู่ ยังคงต้องติดตามแนวโน้มผลประกอบการในช่วงต่อไป ส่วนนักลงทุน ถ้าจะมองหาโอกาสในการเข้าซื้อคงต้องประเมินราคาความเป็นไปได้ทางธุรกิจในอนาคตด้วย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์