ศาลนัด‘JKN’ 23เม.ย.นี้ ชี้ชะตาฟื้นฟูฯ-ยกคำร้อง
จับตา 23 เม.ย. นี้ ศาลล้มละลาย ชี้ชะตา JKN ขอฟื้นฟูกิจการ หลังจาก 5 มี.ค. ไต่สวนพยาน “ผู้ร้องขอ-ผู้คัดค้าน” นัดเดียวจบ วงในเปิด 2 แนวทาง “ยกคำร้อง” หรือ “ฟื้นฟู” จ่อเรียกประชุมเจ้าหนี้ภายใน 45 วัน ฟาก กลุ่มผู้เสียหายหุ้นกู้ ลุ้นยกคำร้อง เดินหน้าดำเนินคดีทางแพ่งต่อ
บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ตามที่บริษัทได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางภายใต้พระราชบัญญัติส้มละลาย พ.ศ. 2483 (รวมที่แก้ไขเพิ่มเติม) ตามที่เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2566 โดยเสนอให้บริษัทเป็นผู้ทำแผน
ต่อมาในวันที่ 9 พ.ย.2566 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทไว้พิจารณาและกำหนดวันได่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการในวันที่ 29 ม.ค. 2567
ทั้งนี้ บริษัทขอแจ้งว่า เมื่อ 5 มี.ค.2567 ศาลล้มละลายกลางได้ไต่สวนพยานของผู้ร้องขอ และไต่สวนพยานของผู้คัดค้านแล้ว คดีเสร็จ การไต่สวน ให้นัดฟังคำสั่งในวันที่ 23 เ,ม.ย. 2567 และยกเลิกนัดวันที่ 6 และ 7 มี.ค. 2567 ทั้งนี้ ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานใด ๆ ของบริษัท
แหล่งข่าวตลาดทุน กล่าวว่า ศาลล้มละลายกลาง กำหนดนัดอ่านคำสั่ง 23 เม.ย. นั้น คาดว่าผลจะออก 2 แนวทาง คือ 1.ยกคำร้อง และ2. มีคำสั่งอนุญาตให้ฟื้นฟูกิจการ และมีคำสั่งให้ จพท เรียกประชุมเจ้าหนี้ภายใน 45 วัน เพื่อเลือกตั้งผู้ทำแผน โดยในระหว่างนี้ ให้ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ กำกับดูแลหาบริษัทลูกหนี้ผู้ร้องขอต่อไป
ทางกลุ่มผู้เสียหายหุ้นกู้ JKN กว่า 500 คน มูลค่าความเสียหายราว 3,500 ล้านบาท กล่าวว่า หากคำสั่งศาล ผลออกในแนวทางแรก ทางผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จะดำเนินคดีแพ่งต่อไป ตามข้อกำหนดสิทธิ์เนื่องจากหุ้นกู้ผิดนัดแล้ว สำหรับผลออกมาในอีกแนวทาง ต้องให้เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน 1 เดือน ก่อนถึงกำหนดวันประชุม เพื่อใช้สิทธิ์เข้าประชุมเจ้าหนี้ต่อไป ยังต้องรอดูคำสั่งศาล 23 เม.ย.นี้ก่อน
นอกจากนี้ล่าสุด ทางตัวแทนกลุ่มฯได้รับจดหมายตอบกลับจาก.ล.ต.แล้ว โดยยังระบุเพียงแต่ว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการเท่านั้น พร้อมกันนี้ทางกลุ่มฯ ยังรอติดตามงบการเงินปี 66 ของ JKN ตามที่ได้แจ้งตลท. เลื่อนส่งงบ ภายใน 29 มี.ค.นี้ เหตุอยู่ระหว่างการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ ซึ่งจะส่งผลต่องบการเงินของบริษัทอย่างนัยสำคัญ
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ หลังจากตามที่ JKN แจ้งในคำร้อง 29 ก.พ. 67 ว่า ได้แสดงเจตนา ที่จะชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ทุกราย และได้มีการเจรจาเพื่อจะชำระหนี้หุ้นกู้บางส่วนให้กับเจ้าหนี้มาโดยตลอด โดยจะนำเงิน 70 ล้านบาท มาชำระหนี้เงินต้นบางส่วนนั้นในส่วนประเด็นดังกล่าว ทางกลุ่มผู้เสียหายที่ JKNผิดนัดชำระหุ้นกู้ มองว่าเป็นการกระทำเพียงเพื่อจะเอื้อประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีของลูกหนี้เท่านั้
หากมีเจตนาด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงที่จะชำระหนี้ ทางเราเห็นว่า ควรจะชำระดอกเบี้ยที่คงค้างจำนวน 2 งวด (คิดเป็นกว่า 3% ของเงินต้นคงค้าง)ซึ่งเกิดขึ้นแล้วจริง น่าจะเหมาะสมมากกว่า ที่จะใช้เงินจำนวนน้อย มาตัดชำระเงินต้น (70 ล้านบาท คิดเป็น เพียง 2.2% ของเงินต้นค้างชำระ เท่านั้น)
"ประเด็นที่ว่า ทาง JKN มีเจตนาที่การเจรจาที่จะชำระหนี้มาโดยตลอดทางเรายืนยันว่า ไม่ได้รับการติดต่อ โดยตรง แต่อย่างใด
เป็นความจริงที่เรียนสื่อตามตรงเหมือนเดิมทุกครั้งแม้กระทั่งการเข้าถึงข้อมูลในการคัดค้านการฟื้นฟูฯ ยังค่อนข้างยาก เนื่องจากเราอาจถูกมองว่าเป็นเพียงผู้เสียหายจากการผิดนัดชำระ ไม่ใช่ ผู้ว่าจ้างโดยตรงในการดำเนินคดี"
นอกจากนี้ ในคำให้การพยานของฝั่ง JKN ได้มีการกล่าวอ้างถึงการเชิญทนาย ผู้รับมอบอำนาจในการคัดค้านการฟื้นฟู เป็นผู้ทำแผนร่วมกับ JKN ในการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ โดยในเอกสารดังกล่าวแจ้งว่า ไม่ขัดข้องที่จะเป็นผู้ร่วมทำแผนนั้น
ประเด็นนี้ทางเราทราบข้อมูลว่า ทางผู้รับมอบอำนาจ ได้นำส่งคำร้องชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาลว่า ผู้รับมอบอำนาจไม่เคยให้ความยินยอมในการเป็นผู้ทำแผนร่วมตามที่ลูกหนี้ผู้ร้องขอกล่างอ้าง