นักวิเคราะห์มอง ‘หุ้นจีน’ ราคาถูกเกินไป แนะเป็นโอกาสเข้าสะสมเพื่อระยะยาว
ในวิกฤติคือโอกาส? นักวิเคราะห์มองว่า “หุ้นจีน” ช่วงนี้อยู่ในโซนมูลค่า “ต่ำเกินไป” แนะนำให้นักลงทุนหาโอกาสเข้าสะสมอย่างระมัดระวัง และมองการเติบโตในระยะยาว
ท่ามกลาง “หุ้นจีน” ที่ยังคงอยู่ในระดับราคาโซนล่าง ฌอน เรน (Shaun Rein) ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการของ China Market Research Group บริษัทด้านการวิจัยตลาดจีน เผยว่า มูลค่าหุ้นจีนอยู่ในโซน “ต่ำเกินไป” และนักลงทุนควรหาจังหวะเข้าสะสมในช่วงนี้
สิ่งสะท้อนนิมิตหมายที่ดีคือ เศรษฐกิจจีนเริ่มหลุดจากภาวะเงินฝืดแล้ว โดยข้อมูลล่าสุดในเดือนก.พ.2567 เงินเฟ้อจีน “กลับมาเป็นบวกครั้งแรก” ที่ 0.7% หลังจากที่เคยติดลบ 0.8% เมื่อเดือนม.ค.2567 และอยู่ในโซนติดลบเช่นนี้มาตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เรนมองว่า เงินเฟ้อที่พลิกมาเป็นบวก อาจเป็น “สิ่งชั่วคราว” จากเทศกาลตรุษจีนที่ผู้คนเพิ่มการใช้จ่าย แต่ “ภาวะเงินฝืด” ยังคงเกิดขึ้นรางๆ ในเศรษฐกิจ โดยเมื่อเรนมองไปที่พฤติกรรมบริโภคของชาวจีน ก็พบว่า แม้แต่กลุ่มมั่งคั่งยังระมัดระวังการใช้จ่าย และเลื่อนการซื้อตั๋วราคาแพงออกไป
นักวิเคราะห์รายนี้ชี้ว่า ในระยะสั้นนั้น แบรนด์หรูทั่วโลกอาจต้องอดทนกับความต้องการซื้อจากจีนที่หดหายไป และรวมไปถึงภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศด้วยที่ต้องขับเคี่ยวอย่างดุเดือด
ท่ามกลางวิกฤติภาคอสังหาริมทรัพย์ และยอดส่งออกที่ลดลงในจีน รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 5% ในปีนี้ แต่ จือชุน หวง (Zichun Huang) นักเศรษฐศาสตร์จีนที่สถาบัน Capital Economics มองว่า เป็นเรื่องค่อนข้างท้าทายที่แดนมังกรจะกระตุ้นเงินเฟ้อให้อยู่ที่ระดับเป้าหมาย 3% ซึ่งเมื่อจีนลดพึ่งพาการลงทุนจากต่างชาติ อาจทำให้เงินเฟ้อประเทศอยู่ในระดับต่ำเช่นนี้ในระยะยาว
ขณะที่เรนเห็นว่า “แม้เศรษฐกิจจีนอ่อนแอ แต่ไม่ใช่อ่อนแอขนาดนั้น ถ้าคุณมองการเติบโตในอีก 3-5 ปีข้างหน้า จะพบว่า ประเทศต่อไปคือ จีน ไม่ใช่อินเดีย เพราะอินเดียมีขนาดผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เพียงอันดับ 6 เมื่อเทียบกับจีน และไม่ใช่เวียดนาม เพราะยังคงมีขนาดตลาดเล็ก ผมจึงคิดว่า เราควรหันมาพิจารณาตลาดจีนในระยะยาวอีกครั้ง”
“เป็นการเร็วเกินไปที่จะเรียกตลาดจีนว่ากระทิง โดยนักลงทุนต้องระมัดระวัง เพราะเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ และมีภาวะเงินฝืด เห็นได้จากตลาดงานในจีนที่ไม่แข็งแรง ขณะเดียวกัน มูลค่าหุ้นจีนกลับถูกเกินไป” เรนแสดงความเห็น
อ้างอิง: cnbc
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์