หุ้น AP-ORI-SPALI รับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ มี backlog ราคา 3-7 ล้านบาท ค่อนข้างมาก
หุ้น AP-ORI-SPALI รับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ มี backlog ราคา 3-7 ล้านบาท ค่อนข้างมาก โดย AP และ ORI ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม condo, และ SPALI ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม low-rise
บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า ครม.ไฟเขียว มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ โดยมอง slightly positive ต่อมาตรการกระตุ้น อสังหาฯ โดยเฉพาะการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เหลือ 0.01% และค่าจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% ในที่อยู่อาศัยมูลค่าไม่เกิน 7 ล้านบาท/ยูนิต เพราะถือว่าดีกว่าที่มีข่าวออกมาก่อนหน้า
ทั้งนี้ ให้น้ำหนักบริษัทที่มีสินค้ากลุ่ม 3-7 ล้านบาท/ยูนิต ทั้ง backlog และ stock เหลือขายรอโอนในปีนี้ที่มากจะได้ประโยชน์มากกว่าบริษัทอื่น โดยให้น้ำหนัก AP, SPALI และ ORI ได้ประโยชน์มากกว่าบริษัทอื่น
โดยให้น้ำหนักบริษัทที่มี backlog ในกลุ่มราคา 3-7 ล้านบาท ที่จะโอนในปีนี้จะได้ประโยชน์เป็นหลัก และน่าจะกระตุ้นให้ลูกค้าเร่งโอนมากขึ้น โดยบริษัทที่มี backlog รอโอนปี 2024F มากสุดคือ AP ที่ 25 พันล้านบาท รองลงมาเป็น ORI ที่ 17.6 พันล้านบาท และ SPALI ที่ 13.5 พันล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งทั้ง 3 บริษัทถือว่ามีสินค้าในกลุ่ม 3-7 ล้านบาท เป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างมาก โดย AP และ ORI ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม condo, และ SPALI ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม low-rise
อย่างไรก็ตาม ยังให้น้ำหนักกำลังซื้อส่วนเพิ่ม (incremental demand) จากมาตรการไม่มากนัก เพราะค่าใช้จ่ายที่ประหยัดลงราว 2% (สูงสุด 140,000 บาท) ไม่น่าส่งผลต่อการกระตุ้นการซื้อใหม่อย่างเป็นนัยสำคัญ เมื่อเทียบมาตรการครั้งก่อนๆ ที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้แต่น่าจะช่วยให้กลุ่มที่มีแผนโอนอยู่แล้ว (จาก backlog) และแผนซื้อในปีนี้ จะกระตุ้นให้โอน และซื้อพร้อมโอนปีนี้มากขึ้น ถ้าดอกเบี้ยที่มีโอกาสลดลงมาเป็นอีกปัจจัยบวก คาดเห็น incremental demand มากขึ้น และช่วยจำกัด downside risk ของกลุ่มได้
นอกจากนี้ บริษัทที่มี stock condo เหลือขายพร้อมโอน ในกลุ่ม condo ราคา 4-7 ล้านบาท ที่มากน่าจะมีโอกาสของ upside ได้บ้าง โดย AP และ SPALI น่าจะได้ประโยชน์ในขณะที่ ANAN ก็น่าจะได้ประโยชน์จากการบริหารสภาพคล่องได้ดีขึ้น และช่วยจำกัด downside ที่อาจเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม กลุ่ม property ถึงแม้มีแรงกดดันที่ลดลง แต่ภาพรวมก็ไม่ถึงกับดีนัก ทั้งนี้แรงกดดันสำคัญของกลุ่มยังมาจาก “rejection rate” ของธนาคารที่ยังสูงกว่าในอดีตมาก จากความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ ภายหลัง NPL ในระบบเร่งตัวขึ้น รวมถึงมาตรการ LTV (loan to value) ที่ทำให้ธนาคารลดเพดานเงินกู้ลงมาเหลือ 70-90% ในสัญญากู้ที่ 2 เป็นต้นไป กดดันให้การปล่อยสินเชื่อลดลง
และ คง Neutral sector rating โดยคาด 2024F presale น่าจะยังลดลง y-y ในขณะที่คาดกำไรสุทธิ 2024F จะโตต่ำเพียง 2% y-y มองผลบวกที่เกิดขึ้นจากมาตรการอสังหาฯ จะช่วยจำกัด downside มากกว่าการเพิ่มของ upside
โดยบริษัท แนะนำ selective Buy ในบางบริษัทที่คาด transfer และ net profit 2024F มีโอกาสทำnew high ต่อเนื่อง โดย AP ยังเด่นใน 2024F จาก portfolio low-rise กลุ่มกลาง-กลางบน ที่มาก ซึ่ง demand ดีกว่ากลุ่มอื่น, มีแผนเปิดโครงการใหม่ที่ aggressive กว่ากลุ่ม ทำให้ยังเพิ่ม market share ได้ต่อเนื่อง ในขณะที่ SC เด่นรองจาก AP จาก presale,transfer และ net profit 2024F มีโอกาสทำ new high เช่นกัน ทั้งนี้ เราเพิ่ม SPALI เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น ภายหลังเป็นหนึ่งในผู้ได้ประโยชน์ค่อนข้างมากจากมาตรการอสังหาฯ ในครั้งนี้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์