หุ้นไทยไตรมาส 2/67 ผลประกอบการเข้าสู่โลซีซั่น จังหวะทยอยสะสม เหตุครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยคึกคัก

"ดัชนีตลาดหุ้นไทย"ตั้งแต่ต้นปี 2567 ติดลบราว 1.38% (ข้อมูล bloomberg) แม้ว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ครม.มีการอนุมัติมาตรการเศรษฐกิจทั้ง ภาคอสังหาฯ และดิจิทัลวอเล็ต ส่งผลให้ดัชนี"หุ้นไทย"ปรับตัวทยานขึ้นมาได้ในช่วงวันที่ 10 เมษายน 2567 ที่ 1,408.17 จุด หรือเพิ่มขึ้น +0.50% และปรับตัวลงมาอีกครั้งในวันที่ 11 เมษายน 2567 ที่ 1,396.38 จุด หรือ ลดลง 0.84% จากนักลงทุนเริ่มเทขายในช่วงวันหยุดยาว 

ขณะที่ในช่วงไตรมาส 2/67  “นักวิเคราะห์” มองว่า ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ช่วงโลซีซั่นของผลประกอบการ แต่นักลงทุนอาจจะสามารถทะยอยสะสมเข้าไปลงทุนได้ 

กิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ในช่วงไตรมาส 2/67 ถือว่าเป็นช่วงที่ไม่ค่อยดีมากนัก เพราะเป็นช่วงที่โมเมนตัมเศรษฐกิจมีการชะลอตัวจากในช่วงปลายปีก่อน ดังนั้นในช่วงเวลา ไตรมาส 2/67 เป็นช่วงโลซีซั่นของผลประกอบ และเป็นช่วงโลซีซันของกิจกรรมทางเศรษฐกิจด้วย 

อย่างไรก็ตาม เมื่อผ่านไปครึ่งปีหลังจะเริ่มมีความน่าสนใจ เพราะในช่วงไตรมาส 3/67 กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะเริ่มดีขึ้นจากการเบิกจ่ายงบประมาณ แม้ว่า พ.ร.บ.งบประมาณ จะเริ่มผ่านแล้ว แต่ทว่า เม็ดเงินที่จะเข้าสู่ระบบจริง ๆ จะเป็นไตรมาส 3/67 ที่จะเห็นการเร่งเบิกจ่าย และได้แรงส่งจากการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการดิจิทัลวอเล็ต 

ทั้งนี้ มองว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของการลงทุนน่าจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เพียงแต่ว่า จุดที่อยากให้นักลงทุนมอง ในช่วงไตรมาส 2/67 สิ่งที่ต้องจับตา คือการปรับฐานของตลาดหุ้นโลก เนื่องจากว่า อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อาจจะปรับลดลงไม่ได้เร็วมากนัก รวมไปถึง ณ ปัจจุบันผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอยู่ในระดับที่สูง 

ดังนั้นอาจจะมีการเห็นการโยกย้ายเงินลงทุน โดยการเพิ่มน้ำหนักไปยังตราสารหนี้ ซึ่งในจังหวะนั้นอาจจะมีการเห็นการปรับลดน้ำหนักลงในหุ้น หรือสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นในไตรมาส 2/67 จะเกิดความผันผวนได้ 

อย่างไรก็ตาม หากพ้นช่วงไตรมาส 2/67 ไปแล้ว และเข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลัง ตลาดหุ้นโดยรวมน่าจะกลับมาดีขึ้น ทั้งในสหรัฐฯ และประเทศไทย โดยในฝั่งของสหรัฐฯ  จะมีการเลือกตั้ง ซึ่งมองว่า ในรอบนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ มีโอกาสสูงที่จะได้เข้ามาเป็น ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง 

ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง หุ้นกลุ่มพลังงานจะได้รับอานิสงส์ค่อนข้างดี ขณะเดียวกัน ทรัมป์ เองไม่ชอบการทำสงคราม เพราะฉะนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการยุติการสนับสนุนยูเครน ส่งผลให้สถานการณ์สงครามรัสเซีย - ยูเครนอาจจะดีขึ้นเร็วมาก อาจจะนำไปสู่การยุติสงครามได้โดยเร็ว 

ขณะที่ความเสี่ยงของเงินเฟ้อ หรือแรงผลักดันจากอุปทานที่ช็อตอยู่อาจจะมีความผ่อนคลายมากขึ้น 

“แม้ว่า คนส่วนใหญ่จะไม่ชอบ ทรัมป์ แต่ว่าในรอบนี้หาก ทรัมป์ได้กลับมาอีก จะเป็นการส่งผลบวกให้กับตลาดจีงทำให้มีความเป็นไปได้สูง” 

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังสามารถเลือกเข้าไปลงทุนได้ ก็ให้ใช้จังหวะที่ตลาดผันผวนช่วงไตรมาส 2/67 ในการที่จะเข้าไปทยอยสะสม มองว่า ตลาดในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก