เช็ก 4 หุ้นกลุ่ม CP ตั้งแต่ต้นปี 67 มาร์เก็ตแคปพุ่ง 1.99 แสนล้านบาท
เช็ก 4 หุ้นกลุ่ม CP ตั้งแต่ต้นปี 67 มาร์เก็ตแคปพุ่ง 1.99 แสนล้านบาท หุ้น TRUE พุ่งมากสุด 61.39% มาร์เก็ตแคปเพิ่ม 107,111.51 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้น เพิ่มขึ้น 3.10 บาท ตั้งแต่สิ้นปี 2566 "โบรก" เผย ภาพรวมทั้งกลุ่มปรับตัวดีขึ้น ลุ้นกำไรโต
อาณาจักร "เครือเจริญโภคภัณฑ์" หรือ กลุ่มซีพี หนึ่งในเสาหลักกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่เบอร์ต้นๆ ของประเทศไทย ทำธุรกิจครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม มีการลงทุนผ่านทั้งบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัททั่วไปมากมาย มีธุรกิจอาหารและการเกษตร ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจค้าส่ง ธุรกิจโทรคมนาคม และอื่นๆ
วีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟินันเซีย ไซรัส ให้ข้อมูลกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า "หุ้นกลุ่ม CP" ไม่ว่าจะเป็น CPALL CPAXT TRUE และ CPF โดยภาพรวมมีการฟื้นตัวปรับขึ้นมาหมด ตามทิศทางกำไร ซึ่งหากดูที่ CPAXT ปีที่ผ่านมา เริ่มปรับตัวดีขึ้นมาในช่วงครึ่งปีหลัง เพราะมีการปรับโครงสร้างทางการเงิน และทำให้ดอกเบี้ยจ่ายมีการปรับตัวลดลง และยอดขายดีขึ้น โดยโลตัสเองที่เริ่มมีพัฒนาการในแง่ของผลการดำเนินงานในเชิงบวก
ทั้งนี้ หลังจากที่ CPAXT เริ่มดีก็ส่งผลมายัง CPALL ที่ดีตามมา เนื่องจาก 7-Eleven ค่อนข้างแข็งแกร่ง ได้ทั้งยอดขายในประเทศ และยังได้แรงหนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ
และเมื่อ CPALL ก็เข้ามาช่วย CPF ได้บ้างเหมือนกัน ซึ่ง CPF ในธุรกิจเนื้อสัตว์อาจจะยังไม่ได้มีกำไรในช่วงไตรมาสแรก แต่อย่างน้อยจะเห็นได้ว่า ขาดทุนลดลง และน่าจะสามารถลุ้นกำไรได้ในช่วงหลังจากนี้ ตั้งแต่ไตรมาส 2- 4/67 ดังนั้นจึงเห็นทิศทางของกำไรทั้งหมดเลย
ขณะที่ TRUE ในระยะสั้น ภาพของอุตสาหกรรมเริ่มเบาลง จากก่อนหน้านี้ มีการแข่งขันที่ 3 ราย แต่ปัจจุบันเหลือแค่ 2 ราย ซึ่งส่งผลให้เป็นผลเชิงบวกในระยะยาว แต่ทว่าในช่วงนี้ยังไม่สามารถรีเทิร์นกลับมาเป็นบวกได้ทันที หรืออาจจะพลิกกำไรแบบก้าวกระโดดได้ทันที เพราะยังเป็นช่วงที่ปรับปรุงแก้ไขภายในหลังจากที่มีการควบรวมกับ DTAC แต่โดยภาพรวมดูดีขึ้นหมดทุกตัว
ประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ราคาเนื้อสัตว์อย่าง หมู ไก่ มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นส่งผลให้ CPF เริ่มดูดีขึ้นมาได้บ้าง ขณะที่ CPALL เริ่มมีสัญญาณที่ดีจากการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามา ส่งผลให้ยอดขายต่อสาขาดูดี และในอนาคตอาจจะดีขึ้นได้ จากดิจิทัลวอเลต แต่ทว่ายังคงไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง เพราะภาพใหญ่ของประเทศยังคงไม่ได้ดีมาก จึงเป็นอีกภาพสะท้อนให้กลุ่ม CP ยังคงไม่ได้คึกคักมากนัก
ส่วน TRUE หลังจากที่มีการควบรวมกับ DTAC เดิมทีอาจจะคาดว่า การจัดการค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมถึงรายได้กว่าจะเรียบร้อย น่าจะเห็นได้ในช่วงปลายปี 2567 นี้ แต่พอมีการประกาศงบไตรมาส 4/66 ออกมาดีกว่าคาด ดูเหมือนหลายอย่างกำลังเข้าที่ ส่งผลให้ราคาหุ้นเริ่มมีการฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม งบไตรมาส 1/67 ออกมายังไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ถือว่า ยังมีโมเมนตัมที่ดี สำหรับ TRUE และ DTAC ขณะที่ CPALL มีโมเมนตัมในส่วนของโลตัส และแมคโครดี แต่ภาคการอุปโภคยังไว้วางใจไม่ได้
ขณะที่ CPF ยิ่งกว่าความไม่แน่นอน เพราะเนื่องจากมีตัวแปรค่อนข้างมาก เช่นราคาอาหารสัตว์ปรับเพิ่มขึ้น ราคาถั่วเหลืองปรับเพิ่มขึ้น ราคาเนื้อหมู ไก่ ปรับลดลง ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นได้ เพราะขึ้นอยู่ตามฤดูกาล แต่โดยภาพรวมถือว่า ดูดีขึ้นมาจากปีที่แล้ว และดูเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังไม่ได้ดีมากสักทีเดียว
ทั้งนี้ "กรุงเทพธุรกิจ" ได้สำรวจหุ้นกลุ่มซีพี ตั้งแต่ต้นปี 2567 พบว่า ในภาพรวม 4 หลักทรัพย์ สามารถทำราคาปรับขึ้นไปได้เมื่อเทียบกับราคาเมื่อสิ้นปี 2566 และส่งผลในมาร์เก็ตรวมของ 4 หุ้น เพิ่มมากขึ้นรวมมูลค่า 199,340.01 ล้านบาท
1.บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เพิ่มขึ้น 61.39%
มาร์เก็ตแคป ปี 2566 ที่ 174,488.11 ล้านบาท
มาร์เก็ตแคป 3 พ.ค.67 ที่ 281,599.62 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 107,111.51 ล้านบาท
ราคา ณ สิ้นปี 66 ที่ 5.05 บาท
ราคา ณ 3 พ.ค.67 ที่ 8.15 บาท
เพิ่มขึ้น 3.10 บาท
2.บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT เพิ่มขึ้น 23.15%
มาร์เก็ตแคป ปี 2566 ที่ 285,668.73 ล้านบาท
มาร์เก็ตแคป 3 พ.ค.67 ที่ 351,795.76 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 66,127.03 ล้านบาท
ราคา ณ สิ้นปี 66 ที่ 27.00 บาท
ราคา ณ 3 พ.ค.67 ที่ 33.25 บาท
เพิ่มขึ้น 6.25 บาท
3.บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เพิ่มขึ้น 4.01%
มาร์เก็ตแคป ปี 2566 ที่ 503,053.68 ล้านบาท
มาร์เก็ตแคป 3 พ.ค.67 ที่ 523,265.65 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 20,211.97 ล้านบาท
ราคา ณ สิ้นปี 66 ที่ 56.00 บาท
ราคา ณ 3 พ.ค.67 ที่ 58.25 บาท
เพิ่มขึ้น 2.25 บาท
4.บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เพิ่มขึ้น 3.57%
มาร์เก็ตแคป ปี 2566 ที่ 164,905.94 ล้านบาท
มาร์เก็ตแคป 3 พ.ค.67 ที่ 170,795.44 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 5,889.50 ล้านบาท
ราคา ณ สิ้นปี 66 ที่ 19.60 บาท
ราคา ณ 3 พ.ค.67 ที่ 20.30 บาท
เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
