KGI งบสวยสวนทางค่านายหน้าหุ้นวูบ อวด Q1/67 กำไร 266 ล้านบาท เพิ่ม 45%
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KGI อวดงบ Q1/67 กำไร 266 ล้านบาท เพิ่ม 45% โดยกลยุทธ์การกระจายฐานรายได้ส่งผลดีชัด แม้รายได้ค่านายหน้าทั้งหุ้นและสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) วูบรวม 37% ทว่า มีรายได้ดอกเบี้ยและผลตอบแทนเครื่องมือทางการเงินมาช่วยพยุงได้สวย
ดร.จื้อ-หง หลิน กรรมการอำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 2/2567 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2567 ได้อนุมัติงบการเงินและงบการเงินรวมของบริษัทฯและบริษัทย่อย ฉบับสอบทาน สำหรับไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2567 ดังนี้
ในไตรมาส 1 ปี 2567 นี้ บริษัทฯมีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ จำนวน 266 ล้านบาท และคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.13 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปีก่อน
ในไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทฯมีรายได้รวม 953 ล้านบาท โครงสร้างรายได้ของบริษัทฯมีการกระจายรายได้อย่างดีในหลายธุรกิจ โดยในไตรมาส 1 ปี 2567 รายได้ของบริษัทฯสามารถแบ่งได้เป็น 3 ส่วนหลัก โดยแต่ละส่วนคิดเป็นประมาณหนึ่งในสามของรายได้ทั้งหมด ได้แก่
(1) รายได้ค่านายหน้าและรายได้ดอกเบี้ย (ร้อยละ 30)
(2) รายได้ค่าธรรมเนียมและค่าบริการ (ร้อยละ 32)
และ (3) กำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงิน (ร้อยละ 38)
ในไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้ค่านายหน้า 173 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 37 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปีก่อน รายได้ค่านายหน้าดังกล่าวประกอบด้วย ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ 109 ล้านบาท และค่านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 64 ล้านบาท ทั้งนี้ รายได้ค่านายหน้าที่ลดลงมาจากทั้งธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเนื่องจากมูลค่าการซื้อขายรายวันเฉลี่ยของ SET และ TFEX ลดลง
ในไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทฯมีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 308 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์
ในไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทฯมีรายได้ดอกเบี้ย 112 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 41 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปีก่อน สาเหตุหลักเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินลงทุน และดอกเบี้ยเงินฝากในสถาบันการเงินและพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
ในไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทฯมีกำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงิน 359 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 61 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปีก่อน ทั้งนี้ กำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงินของบริษัทฯมาจากธุรกรรมหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) ธุรกิจตราสารอนุพันธ์นอกตลาด การลงทุนของบริษัทฯในตราสารหนี้และตราสารทุน การให้บริการซื้อขายตราสารหนี้ ธุรกิจการซื้อคืนภาคเอกชน และการลงทุนอื่น ๆ