WHAUP งบ Q1/67 กำไรสุทธิ 470 ล้าน โต 83% ธุรกิจน้ำ-ไฟฟ้าสนับสนุน

WHAUP งบ Q1/67 กำไรสุทธิ 470 ล้าน โต 83% ธุรกิจน้ำ-ไฟฟ้าสนับสนุน

บมจ. ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) ประกาศงบ Q1/67 ธุรกิจน้ำ-ไฟฟ้า ดันรายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติแตะ 1,047 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 470 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 83% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน พร้อมมุ่งสู่ Green Logistics ตั้งเป้าปีนี้เปิดสถานีชาร์จ EV ครบ 120 ตู้ชาร์จ

นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (WHAUP) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ รับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติจำนวน 1,047 ล้านบาท และมีกำไรปกติ (Normalized Net Profit) จำนวน 372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% และ 62% ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

ในขณะที่มีกำไรสุทธิที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ 470 ล้านบาท (คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.12 บาท) เพิ่มขึ้นราว 83%

การเพิ่มขึ้นของกำไรปกติมีสาเหตุหลักจากส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้นทั้งจากในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ที่รับรู้ค่าความพร้อมจ่ายเพิ่มขึ้นจากการหยุดซ่อมบำรุงที่ลดลง และจากในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้า SPP ที่ได้รับปัจจัยบวกจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

ส่งผลให้อัตรากำไรในส่วนของไฟฟ้าที่จำหน่ายให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้นในขณะที่ปริมาณการจำหน่ายน้ำทั้งในประเทศไทยและเวียดนามยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ภาพรวมธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) ในไตรมาส 1/2567 มีปริมาณยอดจำหน่ายและบริหารน้ำทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมกันเท่ากับ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปริมาณจำหน่ายและบริหารน้ำในประเทศเพิ่มขึ้น 14%  

ซึ่งมีการเติบโตขึ้นทุกผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะน้ำดิบ (Raw Water) จากปริมาณความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้ากลุ่มพลังงานและกลุ่มปิโตรเคมี และผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม (Value-added Product) จากปริมาณการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้ารายใหม่ที่ได้เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว

ส่วนของธุรกิจน้ำในต่างประเทศ ในช่วงไตรมาส 1/2567 ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มียอดจำหน่ายน้ำรวมตามสัดส่วนการถือหุ้นเท่ากับ 8 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณยอดขายน้ำของโครงการ Duong River ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความต้องการการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น 

นอกจากนี้โครงการ Duong River ยังมีการปรับราคาขายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ในงวดไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ Duong River จำนวน 18 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งขาดทุน 11 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตในธุรกิจน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาการให้บริการน้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูง (Premium Clarified Water) ปริมาณการผลิต 3.5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี กับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ตะวันออก (มาบตาพุด) โดยคาดว่าจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 3/2567

ด้านธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มีส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้า จำนวน 301 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ที่เพิ่มขึ้น และจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากกลุ่มโรงไฟฟ้า SPPs ที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้บริษัทฯ รับรู้กำไรจากการจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นตาม

ส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์นั้น ในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ประเภท Private PPA เพิ่มจำนวน 15 สัญญา กำลังการผลิตรวมประมาณ 59 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มีการลงนามในสัญญาโครงการ Private PPA สะสมทั้งสิ้น 242 เมกะวัตต์ 

ซึ่งในจำนวนนี้เป็นโครงการที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วรวม 125 เมกะวัตต์ สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ที่บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกจำนวน 5 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้น 125.4 เมกะวัตต์นั้น ปัจจุบันได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ EGAT และ PEA เสร็จสิ้นแล้ว 4 โครงการ จำนวนรวม 85 เมกะวัตต์ 

สำหรับอีก 1 โครงการที่เหลือคาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาได้เร็วๆ นี้  ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นจากโรงไฟฟ้าทุกประเภทอยู่ที่ราว 812 เมกะวัตต์  โดยบริษัทมีเป้าหมายในการเพิ่มสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นไปที่ระดับ 1,000 เมกะวัตต์  ภายในสิ้นปีนี้

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการต่อยอดธุรกิจพลังงานสะอาดผ่านการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันด้านพลังงานใหม่ๆ อาทิ การเปิดให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) สอดรับกับแผนการลงทุนใน Green Logistics แบบครบวงจรของ WHA Group  โดยได้ตั้งเป้าขยายการให้บริการ ครบ 120 ตู้ชาร์จภายในปีนี้