ASW แจง Q1/67 กำไรสุทธิลด 9% เหตุไร้รายการพิเศษ ส่วนกำไรดำเนินงานปกติยังโต

ASW แจง Q1/67 กำไรสุทธิลด 9% เหตุไร้รายการพิเศษ ส่วนกำไรดำเนินงานปกติยังโต

"แอสเซทไวส์" แจง Q1/67 กำไรสุทธิ 256.32 ล้าน ลด 9% เพราะไม่มีรายการพิเศษขายเงินลงทุนบริษัทร่วมทุนเหมือน Q1/66 ทว่ากำไรปกติยังขยายตัวได้ ส่วนรายได้รวมโค้งแรก 1,758 ล้าน ยอดโอนเพิ่ม 9% ยอดพรีเซล 6,269 ล้าน โตกว่า 65% ระบุ Q2/67 เดินหน้าโอนกรรมสิทธิ์ 5-6 โครงการใหม่หนุนผลงานสวย

บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW แจ้งผ่านหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2567 กำไรสุทธิ  256.32 ล้านบาท (กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.28 บาท) ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนซึ่งทำได้ 282.97 ล้านบาท (กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.33 บาท) คิดเป็น 9.4%  

นายกรมเชษฐ์  วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASW เปิดเผยว่า กำไรสุทธิไตรมาส 1/2567 ทำได้ 256 ล้านบาท ลดลง 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) อย่างไรก็ตาม หากไม่นับรวมรายการพิเศษที่เกิดขึ้นจากการขายเงินลงทุนจากการร่วมทุน (JV) ในช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ จะมีกำไรปกติในไตรมาส 1/2567 เติบโตเพิ่มขึ้น

อนึ่งในไตรมาส 1/2566 กลุ่มบริษัทรายงานการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อย บริษัท ไวส์เอสเตท 8จํากัด บางส่วน ซึ่งพัฒนาโครงการ Atmoz Flow Minburi โดยเงินลงทุนในบริษัทดังกล่าวถูกจัดประเภทเป็นเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าในไตรมาส 1/2566

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,758 ล้านบาท เป็นผลจากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นราว 9% (YoY) รวมทั้งการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จในไตรมาส 4/2566 ที่ผ่านมา ต่อเนื่องมายังไตรมาสแรกของปีนี้ ได้แก่ 

โครงการเคฟ ทาวน์ โคโลนี (Kave Town Colony) ติด ม.กรุงเทพฯ มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท , แอซโมท คาเนล รังสิต (Atmoz Kanaal Rangsit) ใจกลางรังสิต มูลค่าโครงการ 1,650 ล้านบาท เป็นแรงส่งที่ดีในการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องของปี 2566-2567 ตลอดจนโครงการร่วมทุน (JV) ในโครงการเคฟ ซี้ด เกษตร (Kave Seed Kasat) มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท ซึ่งสร้างเสร็จและเริ่มรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์เร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้ในไตรมาส 2/2567

ทั้งนี้ บริษัทฯ ทำยอดพรีเซล (Pre-sale) ไตรมาส 1/2567 รวม 6,269 ล้านบาท เติบโตกว่า 65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) คิดเป็นสัดส่วน 35% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่วางไว้ 17,800 ล้านบาท เป็นผลมาจากการตอบรับที่ดีของโครงการคอนโดมิเนียม “เดอะไทเทิล เฮอริเทจ บางเทา” (The Title Heritage Bang-Tao) มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท จากที่เปิดขายช่วงต้นปี 2567 ปัจจุบันมียอดจองแล้วกว่า 52% 

และโครงการ “เดอะไทเทิล ซีรีนิตี้ ในยาง” (The Title Serenity Nai yang)  มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท พัฒนาภายใต้บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE บริษัทลูกของ ASW ที่ได้รับปัจจัยบวกจากภาพรวมตลาดท่องเที่ยวภูเก็ตที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง  

สำหรับไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ มีแผนเปิดขายคอนโดมีเนียม 2 โครงการใหม่ มีมูลค่าโครงการรวม 2,460 ล้านบาท ได้แก่โครงการ เคฟ ลูมินัส บางมด (Kave Luminous Bangmod) 617 ยูนิต ใกล้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (บางมด) มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท และโครงการ เคฟ เจเนซิส นครปฐม (Kave Genesis Nakhonphathom) 627 ยูนิต ใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครปฐม และมหาวิทยาลัยศิลปากร มูลค่าโครงการ 1,160 ล้านบาท 

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ เดินหน้ารับรู้รายได้ไตรมาส 2 ต่อจากการโอนกรรมสิทธิ์บ้าน และคอนโดมีเนียม รวมกัน 6 โครงการ โดยคอนโดมีเนียม ได้แก่ เคฟ ซี้ด เกษตร (Kave Seed Kasat) ต่อเนื่องจากไตรมาสแรก, เคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ (Kave Town Island) ใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ-รังสิต มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท, เคฟ ยูนิเวิร์ส บางแสน (Kave Uni.Verse Bang Saen) มูลค่าโครงการ 520 ล้านบาท และ เดอะไทเทิล ฮาโลวัน ในยาง (The Title Halo 1 Nai yang) โครงการที่ภูเก็ต มูลค่าโครงการ 1,537 ล้านบาท ส่วนโครงการบ้านเดี่ยว  ได้แก่ ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา (The Honor Yothinpattana), เอสต้า ซีรีนิตี้ บรมราชชนนี (ESTA Serenity Boromratchachonnani) 

จากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองสำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยเหลือ 0.01% ในราคาบ้านไม่เกิน 7 ล้านบาทนั้น สำหรับไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ เตรียมพร้อมที่จะโอนกรรมสิทธิ์บ้าน และคอนโดฯ รวมกันถึง 6 โครงการ จึงน่าจะเป็นอีกไตรมาสที่ดี รวมถึงภาพรวมรายได้ทั้งปีของบริษัทฯ เนื่องจากพอร์ตที่อยู่อาศัยเกือบทั้งหมดของ ASW ได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว” นายกรมเชษฐ์ กล่าว

ทั้งนี้ ASW พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 66 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือรวมถึงแบรนด์ภายใต้ บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE รวมมูลค่าโครงการกว่า 94,100 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 48 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 18 โครงการ และ ณ ไตรมาส 1 ปี 2567 มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 20,475 ล้านบาท