คัดมาให้! 6 หุ้น SET100 จ่ายเงินปันผลสูงเกิน 5% ยาวนานติดต่อ 3 ปี
คัดมาให้! 6 หุ้น SET100 เงินปันผลสูงเกิน 5% ยาวนานติดต่อ 3 ปี บล.ทิสโก้แนะนักลงทุนอาจคัดเลือกหุ้นที่ไม่หวือหวา และสามารถจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40 - 60% ของกำไรสุทธิ ด้าน บล.กสิกรไทย เผยหุ้นอสังหาจ่ายปันผลเด่น LH จ่ายปันผลที่ 7.5%
การลงทุนในหุ้นปันผลสูง ที่มีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนจากเงินปันผล โดยนักลงทุนสามารถดูได้จากอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ที่ระบุว่า จะได้รับเงินปันผลเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของราคาหุ้นที่ลงทุน ตัวเลขดังกล่าวนี้ยิ่งสูงยิ่งน่าสนใจ แต่อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายข้อมูลที่นักลงทุนต้องนำไปคัดเลือกหุ้นเพื่อให้ได้ปันผลที่ดีและสม่ำเสมอ
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล. ทิสโก้ ให้ข้อมูลกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า บริษัทจดทะเบียนไทยในช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยมีการเติบโต ถ้าเทียบกับเงินปันผลกับกำไรอาจจะไม่ได้เพิ่มขึ้น หรือแค่ทรง ๆ แต่ถ้าเทียบเงินปันผลกับราคาหุ้นจะสูงเนื่องจากราคาหุ้นในหลาย ๆ ตัวอยู่ในโซนต่ำ จึงทำให้ Dividend Yield กลับมาเพิ่มขึ้น
สำหรับการคัดเลือกหุ้นปันผลต้องเลือกหุ้นที่มีกำไร หากไม่มีกำไรอาจจะมีการจ่ายปันผลได้ไม่ยั่งยืน ซึ่งกำไรที่ได้ในแต่ละปีอาจจะไม่ต้องมีความหวือหวามากนัก เนื่องจากเป็นลักษณะของหุ้นปันผล
ขณะเดียวกัน นักลงทุนต้องดูที่กำไรสะสมด้วยว่า บริษัทนั้นมีการลดทุนเพื่อที่ล้างขาดทุนสะสมเพื่อให้มีการกลับมาเป็นกำไรได้ ซึ่งจะเป็นเรื่่องของงบดุล หรือ Balance Sheet รวมถึงฐานะทางการเงิน
แต่สิ่งสำคัญนักลงทุนต้องดูตัวธุรกิจก่อน ถ้าหากคาดหวังหุ้นปันผล อย่างน้อยในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าธุรกิจยังอยู่ไม่ได้มีการล้มหายตายจากไป
นอกจากนี้นักลงทุนต้องดูด้วยว่า การจ่ายเงินปันผลนั้นมีการจ่ายเป็นอย่างไรบ้าง โดยที่ไม่มีการจ่ายเงินปันผลที่หวือหวา เช่นหากมีหุ้น ก. จ่ายปันผลสูงแค่ปีเดียว แล้วปีที่เหลือไม่ได้มีการจ่าย ถือว่าเป็นการจ่ายเงินปันผลที่ไม่สม่ำเสมอ ไม่น่าสนใจเข้าไปลงทุน
ฉะนั้นแล้วนักลงทุนอาจคัดเลือกหุ้นที่ไม่หวือหวา และสามารถจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40 - 60% ของกำไรสุทธิ
สรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในหุ้นกลุ่มปันผล หรือ Dividend Yield เน้นลงทุนระยะยาว เป็นการลงทุนที่ข้าม Cyclical ไป และยังมีความน่าสนใจในการลงทุน และหากดูว่ากลุ่มใดมีความน่าสนใจในการลงทุนมองว่า กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้มีความสนใจให้ปันผลสูงสุดเฉลี่ยของกลุ่มปีนี้อยู่ที่ 6.8% และในปีหน้าอยู่ที่ 7.5% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในกลุ่มอื่น ๆ เมื่อเทียบกับหุ้นใน SET100 สาเหตุที่ส่งผลให้หุ้นราคาพร็อพเพอร์ตี้ปรับตัวลงมา เนื่องจากยีลด์มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมา
ขณะที่หากเทียบกับกองทุนรีทที่จะได้ปันผลเทียบกับบอนด์ยีลด์ 10 ปีรัฐบาลไทย ปัจจุบันสูงกว่าค่าเฉลี่ยอยู่ประมาณ 5% โดยค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3.6% สาเหตุมาจากปัจจัยเฉพาะตัว เช่นบางกองทุนกำลังจะมีการเพิ่มทุนหรือบางกองทุน เริ่มหมดอายุสัมปทานลง และมีความไม่ชัดเจนต่าง ๆ ส่งผลให้ราคาหุ้นต่างๆ เหล่านี้ปรับตัวลงมาแรง จึงทำให้ยีลด์ในบางหลักทรัพย์ปรับตัวดึงขึ้นไป
แนะนำทริกในการเลือกหุ้นปันผลในกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ควรเลือกที่รับปัจจัยลบไปมาก เนื่องจาก earning โดน downgrade ในไตรมาส 1 และไตรมาส 2 อาจจะยังไม่ฟื้น แต่อาจจะลุ้นครึ่งปีหลังที่อาจจะมีการฟื้นตัวได้ โดยมองเป็นหุ้น ORI ด้วยราคาหุ้นที่มีการปรับตัวลงมา จะเห็นได้ว่า P/E อยู่ที่ประมาณ 5 เท่า ซึ่งถือว่าถูกกว่ากลุ่มซึ่งอยู่ที่ 7 เท่า ขณะที่ Dividend Yield อยู่ที่ 9 เท่า เทียบกับกลุ่มอยู่ 6.8 เท่า ขณะเดียวกัน ROE อยู่ที่ประมาณ 15.1% เทียบกับกลุ่มอยู่ 9.7 เท่า แต่ earning จะเห็นได้ในช่วงครึ่งปีหลัง
ขณะที่หุ้น LH มีความน่าสนใจเช่นกัน ปันผลอยู่ที่ประมาณ 7.5% ขณะเดียวกัน ROE สูงกว่าที่ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 33.6%
ทั้งนี้ “กรุงเทพธุรกิจ” ได้คัดกรองข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทสไทย โฟกัสไปที่ดัชนี SET100 ที่อัตราเงินปันผลตอบแทนมากกว่า 5% ตลอด 3 ปี มีอยู่ 6 หลักทรัพย์ (ข้อมูล ณ 15 พ.ค.2567)
1.บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) LH
- หมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
- มาร์เก็ตแคป 84,245.48 ล้านบาท
- EBITDA 11,713.30 ล้านบาท
- P/E 11.26 เท่า
- P/BV 1.64 เท่า
- เงินปันผลตอบแทนปี 2564 ที่ 5.68%
- เงินปันผลตอบแทนปี 2565 ที่ 5.05%
- เงินปันผลตอบแทนปี 2566 ที่ 7.36%
- เงินปันผลตอบแทน YTD ที่ 7.09%
2.บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) TISCO
- หมวดธุรกิจธนาคาร
- มาร์เก็ตแคป 77,662.63 ล้านบาท
- EBITDA - ล้านบาท
- P/E 10.64 เท่า
- P/BV 1.83 เท่า
- เงินปันผลตอบแทนปี 2564 ที่ 6.56%
- เงินปันผลตอบแทนปี 2565 ที่ 7.20%
- เงินปันผลตอบแทนปี 2566 ที่ 7.77%
- เงินปันผลตอบแทน YTD ที่ 7.99%
3.บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) TCAP
- หมวดธุรกิจธนาคาร
- มาร์เก็ตแคป 51,381.59 ล้านบาท
- EBITDA - ล้านบาท
- P/E 7.78 เท่า
- P/BV 0.73 เท่า
- เงินปันผลตอบแทนปี 2564 ที่ 7.95%
- เงินปันผลตอบแทนปี 2565 ที่ 7.06%
- เงินปันผลตอบแทนปี 2566 ที่ 6.26%
- เงินปันผลตอบแทน YTD ที่ 6.53%
4.บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) STGT
- หมวดธุรกิจของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์
- มาร์เก็ตแคป 27,219.21 ล้านบาท
- EBITDA 691.81 ล้านบาท
- P/E 162.86 เท่า
- P/BV 0.71 เท่า
- เงินปันผลตอบแทนปี 2564 ที่ 8.66%
- เงินปันผลตอบแทนปี 2565 ที่ 46.44%
- เงินปันผลตอบแทนปี 2566 ที่ 11.19%
- เงินปันผลตอบแทน YTD ที่ 5.26%
5.บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) STA
- หมวดธุรกิจการเกษตร
- มาร์เก็ตแคป 25,958.40 ล้านบาท
- EBITDA 1,018.15 ล้านบาท
- P/E - เท่า
- P/BV 0.51 เท่า
- เงินปันผลตอบแทนปี 2564 ที่ 7.26%
- เงินปันผลตอบแทนปี 2565 ที่ 19.67%
- เงินปันผลตอบแทนปี 2566 ที่ 12.42%
- เงินปันผลตอบแทน YTD ที่ 5.92%
6.บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) TASCO
- หมวดธุรกิจวัสดุก่อสร้าง
- มาร์เก็ตแคป 25,411.62 ล้านบาท
- EBITDA 4,254.13 ล้านบาท
- P/E 11.02 เท่า
- P/BV 1.56 เท่า
- เงินปันผลตอบแทนปี 2564 ที่ 8.84%
- เงินปันผลตอบแทนปี 2565 ที่ 6.21%
- เงินปันผลตอบแทนปี 2566 ที่ 7.62%
- เงินปันผลตอบแทน YTD ที่ 7.76%