WGE มองหุ้นแรงจัดเพราะงานทะลัก หวังปีนี้พลิกมีกำไรทุกไตรมาส

WGE มองหุ้นแรงจัดเพราะงานทะลัก หวังปีนี้พลิกมีกำไรทุกไตรมาส

หุ้น บมจ.เวล เกรด เอ็นจิเนียริ่ง (WGE) ไต่ราคาสูงสุดรอบเกือบ 1 ปี หลังเพิ่งโชว์ลีลาชนซิลลิ่ง ผู้บริหารยืนยันไม่มีอะไรพิเศษ นอกจากเรื่องแจ้งได้งาน 1.79 พันล้าน ส่วนงบ Q2/67 และไตรมาสต่อๆ ไป หวังเห็นกำไรต่อเนื่องจาก Q1/67 อวดงานในมือ 2.5 พันล้าน เป้ารายได้ทั้งปี 2 พันล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานราคาหุ้น บริษัท เวล เกรด เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ WGE วันนี้ (21 พ.ค.67) ยังคงปรับขึ้นแรงต่อเนื่อง เปิดที่ 1.07 บาท บวก 0.12 บาท คิดเป็นการเพิ่ม 12.63% หลังจากราคาปิดวานนี้ (20 พ.ค.67) ปิดที่ระดับเพดานสูงสุด (ซิลลิ่ง) ที่ 0.95 บาท บวก 0.22 บาท คิดเป็นการเพิ่ม 30.14%

นอกจากนี้ราคาหุ้น WGE ที่เคลื่อนไหวสูงสุดระหว่างเช้าวันนี้ที่ 1.12 บาท (ณ เวลา 10.03 น.) ยังนับเป็นจุดสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปีตั้งแต่กลางเดือนพ.ค.66
 

นายเกรียงไกร บัวนุ่ม กรรมการ และเลขานุการบริษัท WGE เปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า การที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างมากในระยะนี้เป็นไปตามแรงเก็งกำไร และยังสอดคล้องกับที่บริษัท เพิ่งแจ้งได้รับงานโครงการจำนวนมาก นอกจากนี้ยังไม่มีปัจจัยประเด็นบวกพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติม

ทั้งนี้เมื่อ 20 พ.ค.67 บริษัทเปิดเผยการได้งานก่อสร้างอาคารพร้อมระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร 4 โครงการ ได้แก่ โครงการ โฟล บาย แสนสิริ, โครงการ แอทโมซ พาลาซิโอ ลาดพร้าว-วังหิน, โครงการ แอทโมซ แคนวาส ระยอง และโครงการ เดอะ เบส ไรส์ รวมมูลค่า 1,797.81 ล้านบาท

"เรื่องที่หุ้นเราบวกไปชนซิลลิ่ง เกิดขึ้นหลังจากที่เราแจ้งได้งานไป นอกนั้นก็ไม่มีปัจจัยอื่นๆ แล้ว ซึ่งจำนวนงานที่ได้ถือว่ามาก เมื่อเทียบกับเป้ารายได้ทั้งปีของเรา" นายเกรียงไกร บัวนุ่ม กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการไตรมาส 1/67 ที่ประกาศออกมา WGE มีรายได้รวมที่ 497.55 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 24.81 ล้านบาท ฟื้นตัวจากภาพรวมปี 66 ที่มีรายได้รวม 1,812.55 ล้านบาท ทว่ากลับขาดทุนสุทธิ 221.49 ล้านบาท

นายเกรียงไกร บัวนุ่ม ยังกล่าวเพิ่มอีกว่า "ทิศทางผลประกอบการปีนี้น่าจะดีขึ้นทุกๆ ไตรมาส และเชื่อว่า จะมีผลกำไรต่อเนื่องไปทุกๆ ไตรมาสของปีนี้ได้ โดยเราโฟกัสงานเอกชนสูงขึ้น และตอนนี้มีงานในมือถึง 2.5 พันล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้ไปถึงไตรมาส 1 ปีหน้า"

WGE ตั้งเป้าหมายรายได้รวมปี 67 ที่ 2,000 ล้านบาท สัดส่วนรายได้งานปัจจุบันมาจากภาคเอกชน 70% ภาครัฐบาล 30% โดยยังคงมุ่งเน้นในพื้นที่เขต EEC และในหัวเมืองใหญ่ๆ เช่น ภูเก็ต

ปัจจุบันบริษัท มีงานมือ 2,500 ล้านบาท และประเมินงานในตลาดที่บริษัท จะทยอยเข้าประมูลอยู่ที่มูลค่าราว 10,000 ล้านบาท คาดหวังโอกาสได้งานอย่างน้อยราว 10% จากการยื่นประมูล

อย่างไรก็ตามยอมรับว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างยังมีการแข่งขันสูง แต่บริษัท มั่นใจจะสามารถอยู่รอดท่ามกลางแข่งขันนี้ ส่วนประเด็นความกังวลต้นทุนก่อสร้าง และค่าแรงงานจะปรับสูงขึ้นนั้น จะไม่กระทบความสามารถทำกำไรของบริษัท เนื่องจากงานใหม่ๆ โดยเฉพาะที่จะรับเข้ามาเพิ่มช่วงครึ่งปีหลังได้ประเมินราคางานโดยรวมต้นทุนที่จะเปลี่ยนแปลงไปรวมไว้แล้ว

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์