ส่องงบ 4 บริษัทเทคฯ ใหญ่ในจีน Tencent Baidu Alibaba JD.com
ส่องงบ 4 บริษัทเทคฯ ใหญ่ในจีน Tencent กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 62% YoY อยู่ที่ ¥41.9 billion ด้าน Baidu กำไรต่อหุ้นลดลง 9% YoY ขณะที่ Alibaba กำไรลดลง 86% YoY ,และ JD.com กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 15.3% YoY
ในช่วงนี้ หนึ่งในประเด็นที่นักลงทุนให้ความสนใจเป็นพิเศษยังคงเป็นเรื่องของการรายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2024 ของบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงที่กำลังเริ่มทยอยประกาศออกมา โดย บลจ. ทิสโก้ ระบุว่า ในสัปดาห์นี้เป็นอีกสัปดาห์ที่นักลงทุนจับตามอง เนื่องจากมีการรายงานผลการดำเนินงานของ 4 บริษัทเทคฯ ยักษ์ใหญ่ของจีน ได้แก่
Tencent - ผลการดำเนินงานเติบโตดีกว่าคาด หนุนโดยธุรกิจโฆษณา และ Cloud
Tencent รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสล่าสุด รายได้เพิ่มขึ้น 6% YoY อยู่ที่ ¥159.5 billion หนุนโดยธุรกิจโฆษณาและธุรกิจ Cloud ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 62% YoY อยู่ที่ ¥41.9 billion
รายได้ธุรกิจโฆษณาออนไลน์เพิ่มขึ้น 26% YoY หนุนจากการนำ AI เข้ามาเสริม ซึ่งช่วยตอบโจทย์ความต้องการของร้านค้า และผู้ใช้งาน รวมทั้งยังทำให้มีจำนวนผู้ใช้งาน และระยะเวลาในการใช้งาน Video Accounts (บัญชีสำหรับการ Live streaming และการสร้าง Video สั้นใน Weixin) เพิ่มขึ้นด้วย ด้านรายได้ธุรกิจ Cloud ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น 50% YoY หนุนจากจำนวนกลุ่มลูกค้าต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม รายได้จากธุรกิจเกมในประเทศยังคงลดลง 2% YoY โดยมีสาเหตุมาจากรายได้เกมยอดนิยม อาทิ เกม Honors of Kings และ Peacekeeper Elite มียอดเติมเงินที่ลดลง
ผู้บริหารกล่าวว่า หลังจากนี้บริษัทจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและการขยายบริการที่มีคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นการทำโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก การเพิ่มบริการใหม่ๆ ในกลุ่มเกม หรือการขยายการบริการ Cloud ทั้งภายใน และต่างประเทศ นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะลงทุนใน AI เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว พร้อมทั้งตั้งเป้าซื้อหุ้นคืนในปีนี้เป็นจำนวน $12.8 billion
Baidu – รายได้เพิ่มขึ้นหนุนโดยธุรกิจโฆษณาออนไลน์และ AI Cloud
Baidu รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2024 มีรายได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1% YoY อยู่ที่ ¥31.5 billion สูงกว่าคาดที่ ¥31.4 billion ขณะที่กำไรต่อหุ้นลดลง 9% YoY อยู่ที่ ¥16.1 จากการบันทึกผลขาดทุนจากสินทรัพย์ที่ลงทุน
รายได้จากธุรกิจโฆษณาออนไลน์ซึ่งเป็นรายได้หลัก ยังคงเติบโตอย่างมีเสถียรภาพที่ 3% หลังนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเสริม ด้านรายได้ของ AI Cloud ก็เติบโตต่อเนื่องหลังนำ ERNIE มาใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน AI ต่างๆ ขณะที่รายได้ธุรกิจ IQIYI ซึ่งคิดเป็นรายได้ประมาณ 25% ของบริษัทลดลง 5% YoY จากการแข่งขันที่ดุเดือด และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค
ด้าน Apollo Go ธุรกิจบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับ ล่าสุดมียอดให้บริการเพิ่มขึ้นถึง 25% เป็น 826,000 เที่ยวสะท้อนถึงการยอมรับ และความนิยมที่เพิ่มมากขึ้น
บริษัทกล่าวว่า ERNIE จะเป็นส่วนสำคัญในยุค Generative AI และจะเป็นตัวช่วยสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ผ่าน AI Cloud รวมทั้งบริษัทยังคงให้ความสำคัญต่อการขยายบริการของธุรกิจ Apollo Go และการพัฒนาเทคโนโลยี และบริการที่จะเป็นตัวช่วยหนุนธุรกิจโฆษณาออนไลน์
Alibaba - รายได้โต แต่กำไรลดลง 86% จากการบันทึกขาดทุนจากการลงทุนในหุ้น
Alibaba รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2024 รายได้เพิ่มขึ้น 7% YoY อยู่ที่ ¥221.9 billion ขณะที่กำไรลดลง 86% YoY อยู่ที่ ¥3.3 billion จากการบันทึกผลขาดทุนจากสินทรัพย์ที่ลงทุน
รายได้ธุรกิจหลักจาก E-commerce ภายในประเทศ (Taobao และ Tmall) เพิ่มขึ้น 3.7% YoY หนุนจากการนำ AI มาเสริมในแอปเพื่อให้ลูกค้ามีประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น ซึ่งช่วยให้จำนวนสมาชิก 88VIP (โปรแกรมสำหรับสมาชิกระดับพรีเมียม) เพิ่มขึ้นเกิน 35 ล้านคน และทำให้ยอดมูลค่าการซื้อขายผ่านแอปเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 2 หลักในไตรมาสนี้ ส่วนรายได้แพลตฟอร์ม E-commerce ในต่างประเทศก็เพิ่มขึ้น 45% YoY หนุนจากบริการส่งด่วนของ AliExpress ที่ช่วยให้ผู้ซื้อได้ของเร็วขึ้น
ด้านรายได้ธุรกิจขนส่ง Cainiao เพิ่มขึ้น 30% YoY จากการขยายฐานการตลาดไปยังต่างประเทศ ส่วนรายได้ธุรกิจ Cloud เพิ่มขึ้น 3% YoY หนุนจากการลดราคาบริการ Public cloud กว่า 100 รายการ
ถึงแม้ว่ากำไรจะหดตัว แต่ผู้บริหารก็ยังคงออกมาให้ความมั่นใจต่อการดำเนินกลยุทธ์ในระยะยาวของบริษัท โดยเฉพาะรายได้จากธุรกิจ Cloud จากการนำ AI และเทคโนโลยีใหม่ๆ มาเสริมผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานแก่ลูกค้าในทิศทางที่ดีขึ้น
JD.com - รายได้ และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
JD.com รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2024 มีรายได้เพิ่มขึ้น 7% YoY อยู่ที่ ¥260 billion และกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 15.3% YoY อยู่ที่ ¥2.27
รายได้ธุรกิจหลักอย่าง JD Retail มีรายได้เพิ่มขึ้น 6.8% YoY หนุนจากจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น หลังบริษัทได้มีการนำเสนอบริการที่ครบวงจร ด้วยการเสนอสินค้าที่หลากหลาย คุณภาพดี และมีการจัดส่งที่รวดเร็ว นอกจากนี้การนำ AI Avatar มาใช้ในการ Live Streaming ซึ่งช่วยให้ยอดวิวเพิ่มขึ้น
ด้านรายได้ธุรกิจ JD Logistics เพิ่มขึ้น 14.7% YoY หนุนจากการขยายฐานการตลาดไปยังต่างประเทศ ด้วยการให้บริการระบบ logistics แก่บริษัทพันธมิตรอย่าง MINISO ในตลาดออสเตรเลีย และมาเลเซีย นอกจากนี้กำไรจากการดำเนินงานของธุรกิจดังกล่าวก็พลิกกลับมามีกำไรที่ ¥224 million
ผู้บริหารบริษัทระบุว่า บริษัทจะเดินหน้าสร้างการเติบโต และผลักดันแบรนด์ด้วยการจัดส่งสินค้าอย่างรวดเร็ว พร้อมคุณภาพสินค้าที่ดี และราคาที่เหมาะสมให้กับผู้บริโภค รวมทั้งจะขยายฐานธุรกิจ Logistics ไปทั่วโลกมากขึ้น โดยจะใช้ฐานการตลาดในออสเตรเลีย และมาเลเซียเป็นตัวผลักดัน
ภาพรวมผลการดำเนินงานของหุ้นเทคฯ จีนที่ประกาศออกมา ยังคงขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งทั้งในมุมของรายได้ และกำไร โดยในระยะข้างหน้าเรามองว่าบริษัทเหล่านี้จะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากการนำ AI มาใช้ และการบริโภคที่มีแนวโน้มดีขึ้นจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรามองว่านักลงทุนที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นจีน สามารถคาดหวังได้ว่าการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นจีนในครั้งนี้จะเป็นการปรับเพิ่มขึ้นได้อย่างมีเสถียรภาพในระยะยาว
อย่างไรก็ดี การพิจารณาลงทุนในหุ้นจีนเพิ่มเติมอาจจะต้องพิจารณาจากสัดส่วนเดิมที่มีอยู่แล้วว่ามีหุ้นจีนมากเกินไปหรือไม่ รวมถึงต้องประเมินความเสี่ยงที่นักลงทุนรับได้ สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นจีนหรือได้มีการลดสัดส่วนการลงทุนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในช่วงเวลานี้ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวะที่ดีในการพิจารณาลงทุนหุ้นจีนเพิ่มเติม
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์