KCE ร่วง 3.59% กำไรไตรมาส 1/67 ต่ำคาด ออเดอร์สินค้ายุโรปเลื่อนส่ง Q2/67
หุ้น KCE ร่วง 3.59% ราคาลดลง 1.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 40.25 บาท หลังผลประกอบการไตรมาส 1/67 ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ "โบรก" แนะ เชิงกลยุทธ์หากราคาหุ้นปรับลงวันนี้มองเป็นโอกาสทยอยสะสมลุ้นการฟื้นตัวใน 2H67
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 23 พ.ค.2567 เวลา 10.05 น. หุ้น KCE หรือ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) ร่วง 3.59% หรือราคาลดลง 1.50 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 40.25 บาท หลังผลประกอบการไตรมาส 1/67 ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ศุภชัย วัฒนวิเทศกุล นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า KCE รายงานกำไรสุทธิ 1/67 ที่ 515 ล้านบาท แต่หากตัดกำไรอัตราแลกเปลี่ยน 95 ล้านบาท กำไรปกติ 1/67 อยู่ที่ 421 ล้านบาท -9% QoQ แต่ +34% YoY
โดยกำไรปกติต่ำกว่าที่เราคาด 10% และต่ำกว่าที่ตลาดคาด 15% จากยอดขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง QoQ ต่ำกว่าที่ตลาดคาดจะทรงตัวได้ QoQ ขณะที่รายได้หลักอยู่ที่ 3.8 พันล้านบาท หรือ -8%QoQ และ -6%YoY จากยอดขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทำได้ 106 ล้านเหรียญ หรือ -8%Q0Q และ-11%YoY) ต่ำกว่า Guidance ที่จะทรงตัวได้ Q0Q คาดว่าหลัก ๆ มาจากระดับสินค้าคงคลังที่สูงของลูกค้า และ KCE ระบุใน MD&A ว่า มีปัญหาในการส่งสินค้าไปตลาดยุโรปในช่วงปลาย 1/67 เพราะมีวันหยุดพิเศษของลูกค้าทำให้ Order เลื่อนมาส่งใน 2/67 KCE มี Backogs ในมือราว 8.7 ล้ำนเหรียญสหรัฐรอส่งมอบในช่วงถัดไป
ด้านรายได้ส่วนที่ยังเติบโตได้ดีคือกลุ่ม HDI ส่วนสินค้าปกติยอดลดลงอัตรากำไรขั้นตั้นทำได้ที่ 23.1% หรือ +73bps QoQ และ +351bps YoY ซึ่งอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นมาจากค่าเงินบาท/USD ที่อ่อนค่า 5.5% YoY และการนำเครื่องจักรใหม่เข้ามาลดตั้นทุนในการผลิต แม้ว่าค่าไฟจะปรับเพิ่มขึ้น Q0Q แต่การลดต้นทุนทำได้ดีกว่า และในวันนี้ KCE จะจัดประชุมนักวิเคราะห์ขึ้นในช่วงบ่าย
อย่างไรก็ตาม แม้กำไรปกติ 1/67 จะต่ำกว่าคาด แต่กำไรปกติ 1/67 คิดเป็น 23% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2567 ของเราที่ 1.8 พันล้านบาท หรือ +15% YoY เนื่องจากเราทำประมาณการปีนี้ของ KCE ไว้ไม่สูงเพราะคาดว่าการฟื้นตัวในตลาด Automotive จะใช้เวลามากกว่าที่ตลาดคาดและน่าจะเกิดขึ้นใน 2H67
แม้ 1H67 รายได้ของ KCE จะเติบโตจำกัดเพราะภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ที่อ่อนแอ แต่การปรับปรุงสายการผลิตให้เป็น Automation มากขึ้นเพื่อลดต้นทุนและค่าเงินบาท/USD ที่อ่อนค่าช่วยประคองกำไร ขณะที่ 2H67 เราคาดผลของการลดระดับสินค้าคงคลังจะลดลงและยอดขายมีโอกาสกลับมาเติบโต HoH จากการขึ้นสายการผลิตของลูกค้ารายใหม่
โดยในเชิงพื้นฐานประมาณการและคำแนะนำ "ซื้อ" อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 46.00 บาทต่อหุ้น ส่วนเชิงกลยุทธ์หากราคาหุ้นปรับลงวันนี้มองเป็นโอกาสทยอยสะสมลุ้นการฟื้นตัวใน 2H67