โบรกฯ ชี้หุ้นกลุ่มแบงก์เสี่ยงน้อยลง แม้ตกเป็นเป้าฝรั่งเทช่วงการเมืองป่วน
นักวิเคราะห์ บล. เอเซีย พลัส ชี้เหตุหุ้นแบงก์แดงระนาวเพราะต่างชาติขายช่วงการเมืองป่วน ส่วนความกังวลเกี่ยวกับหนี้และสินเชื่อยังไม่ใช่ปัจจัยหลักที่กดดันในวันนี้เพราะตลาดได้รับรู้ไปแล้ว มองหุ้นแบงก์พื้นฐานยังแข็งแกร่ง ระยะยาวน่าสนใจเนื่องจากราคาถูก
ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าวันที่ 30 พ.ค. 2567 เคลื่อนไหวในแดนลบอย่างชัดเจน ณ เวลา 11.23 น. ดัชนี SET ต่ำสุดที่ 1,323.19 จุด โดยมีหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์จำนวนมากถ่วงดัชนี ได้แก่ BBL ลดลง 1.44 %, KBANK ลดลง 1.51 %, KKP ลดลง 0.98 %, LHFG ลดลง 1.94 %, SCB ลดลง 0.94 %, TISCO ลดลง 0.26 % และ TTB ลดลง 1.16 %
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้ที่ปรับลดลงว่า สอดคล้องกับแรงขายนักลงทุนต่างชาติซึ่งในระยะสั้นเฝ้าระวังผลกระทบจากประเด็นการเมืองในประเทศ
ส่วนการที่หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับลงระบุว่า เป็นไปตามภาพรวมซึ่งนักลงทุนต่างชาติที่มักจะเลือกขายในหุ้นขนาดใหญ่ที่ถือครองก่อน ขณะที่ประเด็นปัจจัยพื้นฐานและตัวเลขหนี้เสียมีผลบ้าง แต่ไม่ใช่ประเด็นหลักเนื่องจากตลาดรับรู้ไปพอสมควรแล้ว
นอกจากนี้ธนาคารไทยพาณิชย์ไทยส่วนใหญ่มีเงินสำรองที่ครอบคลุมสำหรับหนี้เสียในระดับที่สูงตามมาตรฐาน ฉะนั้นแม้ว่าประเมินระยะสั้นหุ้นกลุ่มธนาคารยังมีความเสี่ยงในการถูกเทขาย แต่ในระยะยาวพื้นฐานยังมีความน่าสนใจเนื่องจากมูลค่าต่ำกว่าพื้นฐานพอสมควรแล้ว
"จริงๆ ก็มองว่า เงินที่ขายหุ้นกลุ่มนี้หลักๆ น่าจะมาจากกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศซึ่งขายหุ้นขนาดใหญ่ที่ถืออยู่ ส่วนเรื่องพื้นฐานหุ้นกลุ่มธนาคารที่หลายคนมีความกังวลยังไม่ใช่ประเด็นหลักที่ทำให้โดนขายในวันนี้ ในระยะยาวยังมองว่าหุ้นกลุ่มนี้น่าสนใจเพราะราคาต่ำกว่าพื้นฐาน" นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม กล่าว