JKN เคลียร์ฟื้นฟูฯ ‘เจ้าหนี้หุ้นกู้’ไม่ชัดเจน 

JKN เคลียร์ฟื้นฟูฯ  ‘เจ้าหนี้หุ้นกู้’ไม่ชัดเจน 

“เจ้าหนี้หุ้นกู้” เผย “อีวายและสำนักกม.” เคลียร์แผนฟื้นฟูกิจการ “JKN” ไม่ชัดเจน หวังรอคำตอบจาก“ผู้ถือหุ้น”คาดเปิดประชุมอีกรอบในสัปดาห์หน้าพร้อมกล่อมหนุนคนกลางเพื่อความโปร่งใสทำแผนและดูแลการทำงานฝ่ายบริหารในช่วงฟื้นฟูฯ

วานนี้ (4 มิ.ย.) กลุ่มผู้ถือหุ้น บมจ. เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป หรือ JKN เชิญเจ้าหนี้หุ้นกู้ JKN ประชุมเพื่อรับฟังแนวทางการดำเนินงาน โดยบริษัท Ernst& Young (EY) นำเสนอประสบการณ์และแนวทางการดำเนินงานของผู้ทำแผน รวมถึงสำนักงานกฎหมาย Linklaters อธิบายเรื่องกระบวนการกฎหมาย และแบบฟอร์มต่างๆ ที่เกี่ยวข้องการรับมอบอำนาจจากกลุ่มผู้เสียหาย หุ้นกู้ JKN และการกรอกแบบฟอร์ม ฟ.19  

โดยตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายหุ้นกู้ JKN ที่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ บริษัท Ernst & Young  และ  สำนักงานกฎหมาย Linklaters ยังเป็นให้ข้อมูล ถึงแนวทางการดำเนินงานของผู้ทำแผน และกระบวนการทางกฎหมาย แบบกว้างๆ ยังต้องรอความชัดเจนเพิ่มเติม โดยคาดจะจัดประชุมอีกรอบต่อประเด็นคำถามเกี่ยวกับผู้ถือหุ้น JKN มาชี้แจ้งใหม่ในสัปดาห์หน้า 

อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มผู้เสียหายหุ้นกู้ JKN มีแนวทางสนับสนุน EY ที่เป็นคนกลาง เพื่อความโปร่งใสในการทำแผนฟื้นฟู และควบคุมดูแลการทำงานของฝ่ายบริหารในช่วงการทำแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งเจ้าหนี้หุ้นกู้ JKN ยังไม่ได้รับดอกเบี้ยใดๆ 

ทั้งนี้ ทาง EY อธิบายถึงการฟื้นฟูกิจการของ JKN เพราะมีแนวทางจะฟื้นฟูได้ โดยหลักการฟื้นฟูกิจการ คือให้บริษัทมีกระแสเงินสดที่จะทำให้กิจการเดินหน้าต่อไปได้และมีเงินนำมาชำระคืนเจ้าหนี้ได้ ถ้าหากบริษัทมีกำไรก็จะจ่ายเงินปันผลได้ปกติ  

ในการสร้างกระแสเงินสดของบริษัท โดยปกติ มาจากการบริหาร แต่ในกรณีฟื้นฟูกิจการ กระแสเงินสด จะมาจากการพิจารณาถึงธุรกิจและทรัพย์สินหลัก กับธุรกิจและทรัพยสินรอง มีการพิจารณาว่าทรัพย์สินส่วนไหนไม่ก่อให้เกิดรายได้ ก็จะมีการขายออกเพื่อสร้างกระแสเงินสด ขณะที่ทรัพย์สินส่วนไหนที่ก่อให้เกิดรายได้ก็จะยังคงอยู่กับบริษัท 

“ธุรกิจไหนที่ไม่มีความชำนาญ ไม่มีกำไร หรือกำไรไม่ดี ก็จะขายออก เพื่อการบริหารมาทุ่มเทกับธุรกิจหลักที่มีกำไร จะสามารถทำเงินได้มากกว่า” 

สำหรับวิธีการสร้างกระแสเงินสด กรณีฟื้นฟูกิจการคือ การระดมเงินใหม่ เข้ามาในรูปของทุนหรือเพิ่มทุน จากผู้ถือหุ้นเดิม หรือเพิ่มจาก Strategic partners หรือ Financial partners ส่วนการกู้ยืมเงินใหม่ก็เป็นอีกทางเลือกเช่นกัน