MGI ติดดอยหุ้น SABUY ห่วงงบ Q2/67 ส่อขาดทุนครั้งแรก
บมจ. มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MGI) อยู่ในสถานะติดดอยการลงทุนหุ้น บมจ. สบาย เทคโนโลยี (SABUY) โดย 30 ล้านหุ้นที่ลงทุนไปต้นทุน 4.50 บาท ล่าสุดเหลือใกล้เคียง 1 บาท มูลค่าหายไปแล้วกว่า 131 ล้านบาท หวั่นกลายเป็นเงินลงทุนด้อยค่าที่ต้องจำใจบันทึกในงบ Q2/67
ผู้สื่อข่าวรายงานจากการสำรวจโครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY พบว่า บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI มีสัดส่วนการถือหุ้นปรากฏจำนวน 30,000,000 หุ้น คิดเป็น 1.70% ในกิจการ
โดยเป็นการลงทุนนับแต่ราวต้นเดือน เม.ย. 2567 ราคาหุ้นละ 4.50 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 135,000,000 บาท เพื่อคาดหวังการต่อยอดธุรกิจพาณิชย์ จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นรายได้กลุ่มหลักให้เติบโตและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
ทั้งนี้กระทั่งปัจจุบันยังไม่มีการรายงานเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้นดังกล่าว อ้างอิงภาพรวมข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 24 เม.ย. 2567 ประเภท : XM แม้ว่าตลอดกว่า 2 เดือนนับแต่เข้าลงทุนทิศทางราคาหุ้น SABUY จะเป็นขาลง
พร้อมกับมีประเด็นเชิงลบทั้งกับตัวเลขผลประกอบการไตรมาสแรก โครงสร้างบริหารไม่นิ่ง ฐานะการเงินมีความเสี่ยงจากผลขาดทุนสะสมราว 3 พันล้านบาท รวมถึงล่าสุดยังมีความน่ากังวลเพิ่มเติมถึงความสามารถชำระหนี้หุ้นกู้ที่จะครบกำหนด 30 ธ.ค.2567 มูลค่า 1,500 ล้านบาท
ทั้งนี้จากต้นทุน 4.50 บาท ต่อหุ้นเมื่อเทียบกับ ราคาปิด ณ สิ้นวันที่ 7 มิ.ย. 2567 ที่ 1.03 บาท เท่ากับว่าขาดทุนส่วนต่าง (ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง) ไปราว 131,910,000 บาท โดยมูลค่าที่เหลืออยู่ตามราคาตลาดคือ 3,090,000 บาท และค่อนข้างมีโอกาสสูงที่เงินลงทุนจำนวนนี้จะด้อยค่าลงกลายเป็นตัวเลขติดลบทางบัญชีในงบการเงินงวดไตรมาส 2/2567
ในขณะที่ผลประกอบการปกติของ MGI เอง ซึ่งจดทะเบียนจัดตั้ง 15 มิ.ย. 2565 จากการแปรภาพบริษัทจำกัด รายงานกำไรสุทธิปีแรกหลังแปรสภาพเท่ากับ 47.85 ล้านบาท ต่อมาปี 2566 ก็รายงานกำไรสุทธิต่อเนื่องทุกๆ ไตรมาสรวมกำไรสุทธิทั้งปีเท่ากับ 119.25 ล้านบาท และยังมีกำไรในไตรมาส 1/2567 ที่ผ่านมาที่ 21.20 ล้านบาท
ดังนั้นแม้ผลประกอบการปกติไตรมาส 2/2567 จะยังมีแนวโน้มทำได้ดี แต่ก็ค่อนข้างยากที่ขยายตัวมากพอกลบผลลบการขาดทุนทางบัญชีที่อาจเกิดขึ้นกับเงินลงทุนนี้หากนำไปคำนวณบันทึกมูลค่ายุติธรรมในงบการเงินได้