’ประธาน ตลท.‘ ออกโรงยัน ‘อัสสเดช’ ไม่เอี่ยวดีลอยท์ ตรวจสอบงบสตาร์ค
"กิติพงศ์ ประธาน ตลท." ยันกระบวนการคัดเลือก ผู้จัดการ ตลท.คนใหม่ โปร่งใส มติเป็น "เอกฉันท์" ชี้ "อัสสเดช" ไม่เกี่ยวเคสดีลอยท์สอบงบสตาร์ค และวันนี้ยื่นใบลาออกเรียบร้อยแล้ว จากนั้นโอนหุ้นคืนตามกระบวนการ พร้อมเข้าทำงาน 1 ส.ค.67 นี้ และไม่เกี่ยวข้องฉุดหุ้นไทยดิ่ง 1,300 จุด
จากกระแสข่าว นายอัสสเดช คงศิริ ที่คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(บอร์ด ตลท.) มีมติแต่งตั้งเมื่อ 14 มิ.ย.67 ที่ผ่านมานี้ ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการ ตลท.คนใหม่ ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการถือหุ้น และเป็นกรรมการของดีลอยท์ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการเข้าตรวจสอบบัญชีการเงิน ของสตาร์ค ทำให้ผลการคัดสรรเลือกผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ คนใหม่ครั้งนี้ ถูกตั้งคำถามว่า ไม่มีความโปร่งใส และนายอัสสเดช คงศิริ มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขนั้น
ต่อประเด็นดังกล่าว นายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานบอร์ด ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของคุณอัสสเดช กับการตรวจสอบบัญชีของสตาร์คนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด เนื่องจากคุณอัสสเดช เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้น และกรรมการของดีลอยท์ เริ่มตั้งแต่ปี 2565 ในขณะที่ดีลอยท์เข้าตรวจสอบบัญชีของสตาร์คก่อนหน้านั้น และหยุดดำเนินการดังกล่าวแล้ว ตั้งแต่ปี 2564
ขณะเดียวกันกระแสข่าวที่ระบุว่า คุณอัสสเดช ถือหุ้นอยู่ในบริษัทโฮลดิ้งส์ของดีลอยท์ สัดส่วนมาก ขอชี้แจ้งว่า โดยปกติการถือหุ้นในบริษัทตรวจสอบบัญชีข้ามชาติ ต้องมีการโอนหุ้นให้คนไทยถือแทน ซึ่งคุณอัสสเดชรับโอนหุ้นตั้งแต่ปี 2565 และรับทราบมาว่า ในเช้าวันนี้ (17 มิ.ย.67) คุณอัสสเดช ได้ยื่นใบลาออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับขั้นตอนต่อไปคือ คุณอัสสเดช จะต้องโอนหุ้นคืนทั้งหมด และต้องเคลียร์งาน เช่น ลูกความของดีลอยท์ที่จะทำให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนออกให้หมด เพื่อให้พร้อมเพื่อเริ่มปฏิบัติงานในตำแหน่ง ผู้จัดการ ตลท.ในวันที่ 1 ส.ค.67 นี้
“อย่าหลงเชื่อสังคมออนไลน์ ที่ลงข้อมูลโดยไม่มีความรับผิดชอบ ที่ทำให้บุคคลอื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง”
พร้อมกันนี้ นายกิติพงศ์ ขอยืนว่า กระบวนการแต่งตั้งคุณอัสสเดช มีความโปร่งใส ดำเนินการอย่างถูกต้องตามหลักการ และเป็นธรรม โดยกรรมการคัดสรร และบอร์ด ตลท. ทั้ง 10 คน ลงมติเป็นเอกฉันท์ ในการคัดเลือกคุณอัสสเดช มาดำรงตำแหน่งนี้
โดยคุณอัสสเดช มีวิสัยทัศน์ มีความสามารถ และนำเสนอหลายๆ ประเด็นในการพัฒนาตลาดทุนไทยในอนาคตที่มีความน่าสนใจ เช่น บริษัทจดทะเบียนควรจะดำเนินการทำแผน 3 ปี รายงาน ตลท. ว่าบริษัทจะมีมูลค่า และกำไรเติบโตอย่างไรหรือไม่ เช่นเดียวกับโมเดลของญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ รวมถึงจุดขายจุดเด่นของตลาดทุนไทยเพื่อสนับสนุนการเติบโตเศรษฐกิจประเทศไทย และการปกป้องนักลงทุนรายย่อย
แต่อย่างไรก็ดี โจทย์แรกที่ผู้จัดการ ตลท.คนใหม่ต้องเร่งดำเนินการคือ "การสร้างความเชื่อมั่นผู้ลงทุน" ถ้าความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมา หุ้นก็ฟื้นกลับมาแน่นอน
ดังนั้น ด้วยประสบการณ์ด้านตลาดเงิน และตลาดทุนของคุณอัสสเดช ในฐานะที่ปรึกษาด้านการเงินของบริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทการเงินที่สำคัญ ทั้งในประเทศ และระดับโลกเชื่อว่าจะขับเคลื่อนตลาดทุนไทยได้ แม้ว่าจะเป็นคนนอก แต่เชื่อมั่นว่า พนักงาน ตลท.และส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนไทยจะให้ความร่วมมือ ช่วยคุณอัสสเดช ขับเคลื่อนตลาดทุนไทยในระยะต่อไป
"ยอมรับว่า ผมเคยทำงานกับคุณอัสสเดช โดยมีความเกี่ยวข้องกับในการฟื้นฟูการบินไทย และก่อนหน้านั้นเคยทำงานร่วมกันมาอยู่แล้ว ดังนั้นการตัดสินใจเลือกคนที่คุ้นเคยการทำงานกันอยู่แล้ว ไม่ได้แปลกอะไร และประธาน ตลท.คงไม่สามารถไปสั่งคนถึง 10 คน ให้เห็นเช่นเดียวกันได้ อย่างไรก็ตามคุณอัสสเดช รับทราบผลการคัดเลือกเมื่อวันศุกร์(14 มิ.ย.67)ที่ผ่านมา ได้ให้ไปทำแผนมานำเสนอหารือพูดคุยกัน และแจ้งต่อทุกๆ คนต่อไป"
นอกจากนี้ กระแสข่าวเกี่ยวข้องกับประเด็น ผลการสรรหา และคุณสมบัติของ ผู้จัดการ ตลท.คนใหม่ ยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับที่ดัชนีหุ้นไทยร่วงแรงหลุด 1,300 จุดในวันนี้ มองว่าหุ้นร่วงมาจาก ปัจจัยพื้นฐานกดดันมาจากการเมืองในประเทศ และความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ในต่างประเทศเป็นหลัก
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์