คณิสสร์ เผยไม่มีเจตนาปกปิดข้อมูลทิ้งหุ้น NEX ยันเคยแถลงทางการผ่านสื่อแล้ว

นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX เปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งการให้บริษัท NEX และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ชี้แจงข้อมูลภายในวันที่ 26 มิ.ย. 2567 ประเด็นแจ้งข้อมูลการขายหุ้นล่าช้า และไม่สอดคล้องกับข้อมูลแพร่ผ่านระบบ SETLink นั้น

ทั้งนี้ บริษัทจะจัดทำข้อมูลเพื่อนำเสนอชี้แจงต่อ ก.ล.ต. ตามที่มีข้อสงสัยกลับไปโดยเร็ว ซึ่งในเบื้องต้น ขอยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาปกปิดข้อมูลเรื่องสัดส่วนการถือหุ้น

ที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2567 บริษัทและตัวแทนพันธมิตรผู้ถือหุ้นใหญ่ปัจจุบันคือ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ก็มีการจัดการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเปิดให้นักข่าวสอบถามข้อมูล ซึ่งหนึ่งในนั้นมีประเด็นเรื่องการถูกโจมตีเรื่องราคาหุ้นด้วย รวมไปถึงมีประเด็นความเสียหายส่วนตัวจากผลของการโดนบังคับขาย (ฟอร์ซเซล) หลักทรัพย์ NEX เคยที่ถือครอง
 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากหุ้น NEX มีการใช้เป็นหลักประกันหลายบริษัทหลักทรัพย์ ดังนั้นกระบวนการโดนฟอร์ซเซลช่วงที่ผ่านมาจึงมิได้ทำรายการขายพร้อมกัน อีกทั้งปริมาณและระดับราคาที่โดนสั่งขายก็แตกต่างกัน ที่สำคัญการตัดสินใจหลักมาจากบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ

ทำให้ขณะนั้นไม่สามารถทราบข้อมูลได้โดยละเอียดว่า จำนวนหุ้นที่แท้จริง ลดลงไปมากหรือน้อยเท่าใด  จึงมิได้รายงานทันทีจนกว่ามั่นใจว่าผลกระทบจากการฟอร์ซเซลจะยุติสิ้นสุดแล้ว

"ผมก็เป็นเหยื่อจากการถูกทุบหุ้นเหมือนกันคนหนึ่ง ทุกอย่างมันสร้างมาดีอยู่แล้ว ผมอยากทำธุรกิจให้มันเติบโต ถ้าผมเจตนาไม่ดีผมขายไปตั้งแต่ 20 บาทแล้วแต่นี่ผมโดนฟอร์ซเซลด้วยราคาไม่กี่บาทเท่านั้น แล้วก็ต้องมานั่งชี้แจงในสิ่งที่ผมไม่ได้เป็นต้นเหตุก่อเรื่องอีก"
 

ปัจจุบันกลุ่มผู้ถือหุ้นสูงสุดของบริษัทยังเป็นกลุ่ม EA และโดยส่วนตัวจะเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มเติมตามที่เคยประกาศแผนเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเฉพาะเจาะจง (PP) และผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ซึ่งมีกำหนดประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 15 ส.ค. 2567 ประเมินว่ามติผู้ถือหุ้นจะเห็นชอบแผนการเพิ่มทุนเพราะมั่นใจว่าพื้นฐานธุรกิจยังแข็งแรง มีทั้งฐานลูกค้า และแหล่งที่มารายได้ชัดเจน มีโอกาสขยายตัว

"ผมพร้อมจะใช้สิทธิเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ และเชื่อว่าผู้ถือหุ้นรายย่อยก็จะพร้อมใช้สิทธิด้วยเพราะราคาที่กำหนดมันสมเหตุสมผล ซึ่งในระยะยาวผมก็จะพยายามการเข้าถือหุ้นในบริษัทมากขึ้นเรื่อยๆ ตามสิทธิ"