บลจ.วรรณ เผย 4 แนวทางการลงทุน มองดอกเบี้ยขาลง หุ้นโยง "เอไอ" น่าสน
"บลจ.วรรณ" มองบรรยากาศลงทุนเริ่มดี แต่ตลาดหุ้นไทยไม่ได้ถูกเมื่อเทียบภูมิภาค ชี้ตลาดหุ้นสหรัฐแพงกว่าแต่น่าสนใจด้วยธีม AI พร้อมเผย 4 แนวทางการลงทุนครึ่งหลัง 67 ได้แก่ 1.Rate Shift, 2.Gen-Al Shift, 3.ESG Shift และ 4.Geopolitics Shift เน้นสัดส่วนลุยหุ้นไทย - เทศ 60% ของพอร์ต
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยในงานสัมมนา “Investment Forum 2024 เจาะขุมทรัพย์ลงทุนยุคโลกเดือด” ที่จัดโดย "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า บรรยากาศการลงทุนหุ้นไทยประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้นหลังจากมีมาตรการฟื้นความเชื่อมั่นต่างๆ ออกมา
อีกทั้งประเมินทิศทางดอกเบี้ยจากขาลง คาดจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยจากฝั่งธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับ หรือ ธปท. ลดดอกเบี้ยนโยบายตามลงมาด้วย ซึ่งจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้
สำหรับดัชนีหุ้นไทยที่อัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ หรือ P/E ที่ 14 เท่า แม้ต่ำกว่าในอดีตแต่ยังถือว่าไม่ได้ต่ำเมื่อเทียบภาพรวมของภูมิภาค ซึ่งกลุ่มธุรกิจของไทยที่มีโอกาสเติบโตโดดเด่นในอนาคตคือ กลุ่มการดูแลความเป็นอยู่ด้านสุขภาพ หรือ Healthcare
ในขณะที่ภาพระดับโลกหุ้นต่างๆ เช่น ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แม้จะ P/E แพงกว่า 20 เท่า แต่ก็มีโอกาสเติบโตในระยะยาวในด้านเทคโนโลยี ซึ่งยังถือว่าน่าสนใจ
ทั้งนี้โอกาสการลงทุนครึ่งหลังปี 2567 นี้มี 4 ประเด็นน่าสนใจได้แก่ 1.Rate Shift, 2.Gen-Al Shift, 3.ESG Shift และ 4.Geopolitics Shift
"เราต้องหาโอกาสจากทั่วโลกในช่วงที่ดอกเบี้ยอยู่ที่จุดสูงสุดแล้วกำลังจะปรับลง AI ยังเป็นเรื่องสำคัญ ส่วน ESG ก็มีผลต่อการลงทุน"
แนะนำจัดสรรสัดส่วนการลงทุน หุ้น 60% (แบ่งเป็น หุ้นไทย 10% หุ้นสหรัฐอเมริกา 10% หุ้นจีน 10% ที่เหลือเป็นหุ้นยุโรป และประเทศอื่นๆ) , ตราสารหนี้ 20% และสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ 20%
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์