ตามนัด! FETCO เข้าถก รมว.คลัง ชงต่ออายุ - ปรับเงื่อนไข SSF สร้างเงินออมระยะยาว

ตามนัด!  FETCO เข้าถก รมว.คลัง ชงต่ออายุ - ปรับเงื่อนไข SSF สร้างเงินออมระยะยาว

"เฟทโก้" เข้าถก "รมว.คลัง" ชงต่ออายุ - เปลี่ยนเงื่อนไข กองทุน SSF หนุนสร้างเงินออมระยะยาวในประเทศ ย้ำฟื้นกองทุนวายุภักษ์ดีต่อตลาดทุนไทย หลังคาดเม็ดเงินเข้ากองทุน ThaiESG ใหม่ 2 หมื่นล้าน ชี้รัฐเดินหน้าหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ - ตลาดทุนเพิ่ม มองจีดีพีไทยปีนี้โตแตะ 3%

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่เลขานุการบริษัทและกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ในฐานะประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (28 มิ.ย.67) เฟทโก้ เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (รมว.คลัง)  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่ได้มีการนัดหมายไว้  เพื่อหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนภาคการออมประชาชนให้เติบโตต่อเนื่อง ผ่านการลงทุนต่างๆ รวมถึงการออมเงินผ่านกองทุนรวม  

ขณะเดียวกันเฟทโก้จะขอหารือเกี่ยวกับกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (Super Saving Funds : SSF) ที่จะหมดอายุในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท ในปีนี้ เนื่องจากกองทุนดังกล่าวได้รับความสนใจจากนักลงทุนพอสมควร โดยเฉพาะนักลงทุนกลุ่มคนรุ่นใหม่ ว่าจะสามารถต่ออายุกองทุนฯ รวมถึงการปรับเปลี่ยนเงื่อนไข SSF อย่างไรได้บ้าง มั่นใจ กองทุนดังกล่าวช่วยส่งเสริมการออมระยะยาวให้กับนักลงทุนกลุ่มนี้ได้

ขณะเดียวกัน เฟทโก้เห็นด้วยกับกระทรวงการคลังในการนำกองทุนวายุภักษ์กลับมาอีกครั้ง การเข้าพบครั้งนี้ส่วนหนึ่งอยากทราบถึงรายละเอียดกองทุนดังกล่าวพร้อมกับให้ความร่วมมือเต็มที่หากภาครัฐต้องการ  มองกองทุนวายุภักษ์เป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก

ส่วนกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน(Thai ESG) ภายใต้เงื่อนไขใหม่บวกกับการทำตลาดให้ความรู้เกี่ยวกับกองทุนดังกล่าว มั่นใจว่า อย่างน้อยดึงเงินเข้าตลาดหุ้นไทยได้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท  และภาครัฐยังเดินหน้าหามามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และตลาดทุนออกมาเพิ่มเติม 

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีนี้ น่าจะกลับมาดีอย่างชัดขึ้นในไตรมาส 4/2567จากภาคท่องเที่ยวช่วงไฮซีซัน  และส่วนไตรมาส 2 ไตรมาส 3 และไตรมาส 4 จะฟื้นตัวตามการแรงเบิกจ่าย งบประมาณปี 67  ที่เร่งตัวขึ้น ทำให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้ มีโอกาสเติบโต 3% ส่วนปี 2568 มีโอกาสเติบโตเกิน3% 

"ในส่วนภาพรวมประเทศไทย มองว่า เศรษฐกิจมหภาคยังไปได้ดี ต่างจากเศรษฐกิจจุลภาคระดับไมโคร และเอสเอ็มอีที่ยังมีปัญหาอยู่ โดยเฉพาะเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง  ส่วนภาคการส่งออกจากนี้ไปมีโอกาสเติบโตตามการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก มองการลดดอกเบี้ยดังกล่าวจะยาวไปถึง 1 ปีครึ่ง " 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์