“สมโภชน์” รับมีหุ้น EA ถูก Force Sell แต่แก้ไขปัญหาจบแล้ว ยันยังถือหุ้นใหญ่
“สมโภชน์ อาหุนัย” ซีอีโอ EA ยอมรับถูก Force Sell จนหุ้นร่วงแต่จัดการปัญหาทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ยืนยันปัจจุบันยังมีอำนาจในการบริหารกิจการ และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ พร้อมเดินหน้าลุยขยายธุรกิจ ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.67 ลงนามเป็นพันธมิตรกับ CRRC Corporation
นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) แถลงข่าววันนี้ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ หุ้น EA เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยอมรับที่ผ่านมาได้นำหุ้นไปค้ำประกันเงินกู้โดยสัดส่วนของการกู้เป็นเพียงประมาณ 3% ของมูลค่าทรัพย์สินที่มีทั้งหมด ณ ราคาหุ้นเมื่อทำสัญญา ส่วนตัวเห็นว่าสัดส่วน 3%ถือเป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับหุ้นที่มี อีกทั้งเชื่อมั่นบริษัทจะสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามแผนที่วางไว้ จึงประเมินว่าไม่มีความเสี่ยงกระทบถึงบริษัท
นายสมโภชน์ เปิดเผยว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมามีข่าวลือในทางลบต่างๆ เช่นลือว่าผมขายหุ้นออกไปแล้ว หรือปล่อยข่าวที่ทำให้กระทบกับความเชื่อมั่นของบริษัท มีทั้งการติดต่อไปยังผู้ถือหุ้นรายใหญ่เพื่อโน้มน้าวให้ขายหุ้นทิ้ง ในขณะที่จำนวนหุ้นที่ถูก Short Sell ก็มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อหุ้นถูกเทขายออกมามากๆ ทำให้ราคาหุ้นลดลง และเกิดการถูก Force Sell จนกลายเป็น Snowball ทำให้ทุกคนเสียหาย และในวันนี้ผมก็ถูก Force Sell ด้วยเช่นกัน และเป็นคนที่เสียหายมากที่สุด ซึ่งได้พิสูจน์แล้วว่าที่ลือกันว่าผมขายหุ้นออกไปก่อนหน้านั้นไม่เป็นความจริง”
ทั้งนี้นายสมโภชน์ ได้ระบุเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่ผ่านมา ผมพยายามทุกวิถีทางในการเจรจากับสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะเสนอทางเลือกให้กับเจ้าหนี้หลากหลายรูปแบบ อาทิ หานักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นโดยทำ Big Lot เพื่อไม่ให้กระทบกับราคาหุ้นในกระดาน ขอจ่ายชำระบางส่วนพร้อมนำหลักทรัพย์ปลอดภาระที่อยู่กับเจ้าหนี้ มาค้ำประกันเพิ่มขึ้น รวมถึงขอขยายเวลาชำระหนี้จากภายใน 3 วันขยายเป็น 15 วันโดยมีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าจะสามารถนำเงินมาชำระคืนได้อย่างแน่นอน เจ้าหนี้ก็ไม่ยอม จึงนำมาสู่การถูก Force Sell ดังกล่าวขึ้น
ผมได้พยายามทำทุกทางอย่างเต็มที่แล้วแต่ไม่สำเร็จ จากสิ่งที่เกิดขึ้นตัวเองสูญเสีย wealth เป็นมูลค่าหลักหมื่นล้าน แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นไปกระทบกับความเชื่อมั่นของบริษัท กระทบภาพรวมของตลาด ผมขอโทษทุกคนที่เกี่ยวข้องด้วย
นี่เป็นบทเรียนที่สำคัญ สิ่งที่เราเคยเข้าใจกันว่า ตลาดหลักทรัพย์เป็นที่ระดมทุนให้กับบริษัท แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนที่ผมได้เรียนรู้ว่า ทั้งที่สัดส่วนของการกู้เป็นเพียงประมาณ 3% ของมูลค่าทรัพย์สินที่มีทั้งหมด เมื่อเจอข่าวลือ ข่าวปล่อยต่างๆ ที่เกิดขึ้น และการทำ Short Sell เพื่อกดราคาหุ้น ผมยังโดน Force Sell ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้กลายเป็นตลาดทุนเป็นที่ทำลายธุรกิจ ขอให้กรณีของผมถือเป็นกรณีศึกษา อย่าได้เกิดกับใครอีกเลย
สำหรับหุ้นที่เคยนำไปค้ำประกันเงินกู้ได้ถูกบังคับขายเพื่อชำระหนี้หมดแล้ว นับจากนี้แรงเทขายควรจะหมดไปแล้ว ดังนั้นต่อไปนี้ราคาหุ้น EA น่าจะเริ่มกลับมาสู่สภาพปกติ ส่วนราคาปิดเมื่อสิ้นสัปดาห์ที่แล้ว มองว่าเป็นราคาที่ไม่สะท้อนพื้นฐานที่แท้จริงของบริษัท ในอีกมุมหนึ่งวิกฤติที่เกิดขึ้นถือเป็นโอกาสของนักลงทุนที่มองเห็นอนาคตของ EA
“ผมบาดเจ็บนะ…แต่ยังไม่ตาย” วันนี้ปัญหาของผมเคลียร์จบหมดแล้ว ปัจจุบันยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน EA สัดส่วนมากกว่า 33% รวมทั้งพันธมิตรยังถือหุ้นมากกว่า 50% จากนี้จะเดินหน้าทำธุรกิจต่อไป ผู้บริหารและพนักงานของ EA ทุกคนยังกำลังใจดีมาก พร้อมร่วมมือเป็นพลังที่เข้มแข็งกว่าเดิม ในฐานะผู้บริหารผมยังคงทำหน้าที่อย่างดีที่สุด และเป็นมืออาชีพ ผมอยากให้นักลงทุนแยกแยะระหว่างเกมการเงินกับปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจออกจากกัน
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 ซึ่งเป็นวันที่หุ้นถูกเทขายอย่างวิกฤติ เป็นวันที่ผมอยู่ต่างประเทศ และได้ทำหน้าที่อย่างมืออาชีพในนามบริษัทได้ร่วมลงนามเซ็น MOU กับ China Railway Rolling Stock Corporation (CRRC) ผู้ผลิตรถไฟรายใหญ่ที่สุดของโลก ในฐานะ Strategic Partner ถือเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีความเชื่อมั่นต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) และความเป็นมืออาชีพของผู้บริหารในการขับเคลื่อนองค์กร
ทั้งนี้มั่นใจว่าทิศทางที่บริษัทดำเนินการในเรื่อง พลังงานสะอาด การลดก๊าซคาร์บอน เป็นเทรนด์ใหญ่ของโลก และจะมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยลดก๊าซเรือนกระจกตามที่ได้สัญญาในข้อตกลงระหว่างประเทศ ในส่วนของรายละเอียดของแผนธุรกิจรวมทั้งความกังวลของนักลงทุนที่มีต่ออนาคตของบริษัทจะขอชี้แจงในวันรุ่งขึ้น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์