คาด ‘หุ้นญี่ปุ่น’ชะลอตัวครึ่งหลังปี 67 กังวล ‘เยนอ่อนค่า’ฉุดกำไรบริษัทร่วง
คาดตลาด ‘หุ้นญี่ปุ่น’ชะลอตัวในครึ่งหลังของปี 2567 โตแค่ 4.8% หวั่น‘เยนอ่อนค่า’ แตะระดับ 170 เยนต่อดอลลาร์ ฉุดกำไรบริษัทร่วง-กำลังซื้อหด ทำนักลงทุนเทขาย 5 สัปดาห์ติด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างถึงความคิดเห็นของนักลงทุน โดยคาดการณ์ว่าการเติบโตของ “ตลาดหุ้นญี่ปุ่น” จะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้นักลงทุนจะย้ายเงินไปลงทุนในตลาดอื่นมากขึ้น
บลูมเบิร์กได้สำรวจการประมาณการเฉลี่ยจากผู้จัดการสินทรัพย์และนักกลยุทธ์พบว่า มีการคาดการณ์ว่าดัชนี Topix ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้น 2.9% เป็น 2,890 จุด ในขณะที่ ดัชนี Nikkei 225 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 4.8% เป็น 41,489 จุดภายในสิ้นปีนี้ แม้จะบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นแต่ถือว่าช้าลงเมื่อเทียบกับการพุ่งทะยาน 18% ของดัชนีทั้งสองดัชนีในช่วงครึ่งแรกของปีจนแตะระดับสูงสุดในรอบ 34 ปี
จากความกังวลเกี่ยวกับ “เงินเยนอ่อนค่า” กำลังส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดหุ้นและเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยนักลงทุนมีความกังวลว่าเงินเยนที่อ่อนค่าจะส่งผลเสียต่อผลกำไรของบริษัทญี่ปุ่น รวมทั้งทำให้สินค้าและบริการนำเข้ามีราคาแพงขึ้น ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและทำให้บริษัทต่างๆ มีต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เผชิญกับแรงกดดันให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นในเดือนกรกฎาคม
เงินเยนอ่อนค่าลงแตะระดับ 161 เยนต่อดอลลาร์ ในวันที่ 28 มิ.ย.และมีความเสี่ยงที่จะอ่อนค่าลงไปอีกจนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 38 ปี โดยบางส่วนในตลาดคาดการณ์ว่าเงินเยนอาจจะอ่อนค่าลงไปจนถึง 170 เยนต่อดอลลาร์
แม้เงินเยนที่อ่อนค่าจะส่งผลดีต่อบริษัทส่งออก แต่ในขณะเดียวกันก็ส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อจากการนำเข้าด้วย ซึ่งส่งผลกระทบต่อค่าแรง โดยนักวิเคราะห์หลายคนมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการฟื้นตัวของตลาดหุ้นญี่ปุ่น
ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนและภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้นักลงทุนต่างชาติบางส่วนมองหาโอกาสการลงทุนนอกประเทศญี่ปุ่น โดยนักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง 5 สัปดาห์ติดต่อกัน ยาวนานที่สุดในรอบ 15 เดือน แม้ว่าดัชนี Topix ซื้อขายที่อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ประมาณ 17 เท่า ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับดัชนีอื่นๆ ในขณะที่นักลงทุนบางส่วนกำลังมองหาโอกาสการลงทุนนอกประเทศญี่ปุ่น เช่น ตลาดหุ้นจีน โดยดัชนี Shanghai Stock Exchange Composite ซื้อขายที่ P/E 14 เท่า
หุ้นญี่ปุ่นยังสดใส
อย่างไรก็ดี ไคล์ ร็อดด้า นักวิเคราะห์จาก Capital.Com ยังคงมีมุมมองต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นในเชิงบวก โดยคาดว่าผลประกอบการมีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อพิจารณาถึงการฟื้นตัวที่ดีในช่วงต้นปีนี้ แม้จะมีความเสี่ยงแต่ยังมีโอกาสมากกว่า
แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจญี่ปุ่นและเงินเยนอ่อนค่า แต่นักลงทุนหลายรายยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นในระยะยาว นำโดยบริษัทจัดการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น BlackRock ยังคงถือครองหุ้นญี่ปุ่นมากกว่าสัดส่วนที่ตลาดกำหนด (Overweight) แสดงถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาด
นอกจากนี้ การสำรวจผู้จัดการกองทุนโดยธนาคารแบงก์ออฟอเมริกา( Bank of America) ชี้ให้เห็นว่าญี่ปุ่นยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักลงทุนในภูมิภาคเอเชียคาดว่า กำไรต่อหุ้นของดัชนี MSCI Japan จะเพิ่มขึ้น 16% ในอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งสูงกว่าดัชนี MSCI World ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 8.5%
อเล็กซานเดอร์ วูล์ฟ นักกลยุทธ์การลงทุนเอเชียจากธนาคาร เจพี มอร์แกนเชสระบุว่า กำไรของบริษัทญี่ปุ่นทำผลงานได้ดีกว่าเศรษฐกิจพื้นฐานอยู่ ซึ่งคาดว่าจะทำผลงานได้ดียิ่งขึ้นไปอีก จนสามารถทำผลงานได้ดีกว่าประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ ที่ประมาณ 11%-13% ในปีนี้
อ้างอิง bloomberg