NEP ซื้อกิจการ "วาวา แซด" เสร็จแล้ว มูลค่า 8.4 พันล้าน รับรู้รายได้ 1 ก.ค. 67

NEP ซื้อกิจการ "วาวา แซด" เสร็จแล้ว มูลค่า 8.4 พันล้าน รับรู้รายได้ 1 ก.ค. 67

NEP จัดโครงสร้างธุรกิจโดยซื้อ VAVA Z กิจการผลิตและจำหน่ายสินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อมด้วยมูลค่า 8.4 พันล้านบาท เริ่มรับรู้รายได้ 1 ก.ค. 67 เป็นต้นไป โดยเป็นบริษัทในเครือของ "วาวา แพค" ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับแรก

นายสุนทร พจน์ธนมาศ ประธานกรรมการบริษัท เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ NEP แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า สืบเนื่องจากประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 5/2567 วันที่ 20 มิ.ย. 2567 มีมติ ซื้อกิจการ VAVA Z จากบุคคลที่เกี่ยวโยง มูลค่ารวม 8,434,797.63 บาท (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จากบริษัท วาวา แซด จำกัด นั้น

ทั้งนี้เป็นการซื้อทรัพย์สิน อุปกรณ์ เครื่องจักรสำหรับออกแบบการผลิต และสต็อกสินค้าที่ Active เครื่องหมายการค้า/แบรนด์ VAVA Z รวมถึงลูกค้าและฐานลูกค้าทั้งหมดนั้น ซึ่งธุรกิจ VAVA Z เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายสินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อม รูปแบบ Circular Upcycle เป็นการนำเศษวัสดุเหลือใช้ หรือ วัสดุ Recycle นำกลับมาเพื่อสร้างมูลค่าจากการที่บริษัทซื้อกิจการ VAVA Z ถือเป็นธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้แผนธุรกิจประจำปี 2567
 

บัดนี้ บริษัทได้ดำเนินการซื้อกิจการ VAVA Z เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2567 และเริ่มรับรู้รายได้ทางบัญชีจากการขายสินค้าแบรนด์ VAVA Z โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2567 เป็นต้นไป

อนึ่งบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน คือ นายวีระชาติ โลห์ศิริ เป็นกรรมการและกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของ วาวา แซด โดยนายวีระชาติ โลห์ศิริ เป็นผู้ถือหุ้นของ NEP คิดเป็นร้อยละ 1.39 ของทุนชำระแล้วของบริษัท และนางทิฆัมพร ชัยเอี่ยม ภรรยาของนายวีระชาติ โลห์ศิริ เป็นผู้ถือหุ้นของ NEP คิดเป็นร้อยละ 1.62 ของทุนชำระแล้วของบริษัท ขณะที่ บริษัท วาวา แซด จำกัด อยู่ในกลุ่ม บริษัท วาวา แพค จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 1 ของ NEP คิดเป็นร้อยละ 19.78 

ดังนั้น นายวีระชาติ โลห์ศิริ จึงเป็นผู้ถือหุ้นโดยทางตรงและโดยทางอ้อมของบริษัท คิดเป็นร้อยละ 22.79 ของทุนชำระแล้วของบริษัท